“GULF” ทุ่มหมื่นล้านซื้อ “THCOM”ผงาดธุรกิจ “NEWS SPACE”

วันนี้ 6  มกราคม 2566   เป็นวันแรกที่ บริษัท กัลฟ์ เวนเซอร์ส จำกัด  บริษัทย่อย กัลฟ์  เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF  ถือหุ้น 100%  ทำคำเสนอซื้อหุ้นในบริษัท  ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM  จาก บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH อีกจำนวน 58.87% เป็นจำนวนทั้งสิ้น 645,231,020 หุ้น ในราคา 9.921 บาทต่อหุ้น โดยคิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 6,400.69 ล้านบาท

การซื้อหุ้นสามัญเพิ่มครั้งนี้  GULF  ใช้วิธีกำหนดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์

• ระหว่างวันที่ 6 ม.ค.-9 ก.พ. 2566  
• ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนการรับซื้อ  
• กำหนดวันที่ 13 ก.พ. 2566 เป็นวันชำระราคาหลักทรัพย์

ก่อนหน้านี้ GULF ได้ดำเนินการซื้อขายหุ้นสามัญ THCOM  จำนวนทั้งสิ้น 450,870,934 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 41.13%  ของหุ้นที่ออกและจำหน่าย จำนวนเงินรวมประมาณ 4,472.64 ล้านบาท ในราคาซื้อขายหุ้นละ 9.92 บาท  ดังนั้น หาก GULF ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มได้อีกเท่ากับว่าบริษัทย่อยของ GULF เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 100% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น  10,873 ล้านบาท  จากเดิมที่ THCOM เป็นแค่หลาน จะแปรเปลี่ยนเป็นลูกภายใต้ชายคา GULF เพื่อนำวงโคจรดาวเทียมต่อยอดธุรกิจอาณาจักรพลังงานเต็มรูปแบบ

ถามว่าทำไม? GULF ถึงซื้อหุ้นสามัญของ THCOM ทั้งหมด

• คำตอบแรก  ระบบสัมปทานถูกปลดล็อกเปลี่ยนเป็นระบบใบอนุญาต
• คำตอบถัดมา  “THCOM” ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน
• ปัจจุบัน THCOM  ถือครองดาวเทียม จำนวน 2 ดวง คือ ไทยคม 7 และไทยคม 8 ให้บริการด้านเทเลคอมภายใต้ C-band
• ส่วนไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) และไทยคม 6 แม้จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานไปแล้ว THCOM  ได้ไปเช่าเหมาทรานสปอนเดอร์จาก บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ทั้ง 2 ดวงมาทำตลาดให้ลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง
• คำตอบสุุดท้าย  ร่วมประมูลวงโคจรดาวเทียม เพื่อสยายปีกต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร

ปรับโครงสร้างต่อยอดธุรกิจ New Space

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ GULF  เปิดเผยว่า  การตัดสินใจลงทุนใน THCOM นั้นมีความเหมาะสมกับกลุ่ม GULF ในหลายมิติ ทั้งด้านยุทธศาสตร์ การเติบโต และเพิ่มศักยภาพการต่อยอดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ซึ่งมีโอกาสในการพัฒนาธุรกิจได้หลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นบริษัทไทยที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายประเทศ ไม่ได้อิงรายได้จากภายในประเทศ (Local based) เพียงอย่างเดียวและมีโอกาสในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจ New Space ที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต อาทิ ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายดาวเทียมผสมผสานกับ AI  Machine Learning  และ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องขนส่งทางน้ำ และ อากาศ เป็นต้น

การปรับโครงสร้างของ GULF ต่อยอดไปยังธุรกิจ New Space สะท้อนให้เห็นแล้วว่า GULF พร้อมลุยคว้าวงโคจรดาวเทียม หลังส่งบริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จำกัด ในเครือ GULF ยื่นแสดงความจำนง ประมูลวงโคจรดาวเทียม จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  หรือ กสทช. เป็นหนึ่งใน 3 รายที่จะโดดร่วมชิงวงโคจร  โดยในวันที่ 9 มกราคม 2566 ประกาศรับรองผลคุณสมบัติและหากมีผู้มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลมากกว่า 1 ราย โดยไม่มีผู้ใดยื่นอุทธรณ์ สำนักงาน กสทช. จะทำการ Mock Auction ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 และทำการประมูลสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะชุด (Package) ในวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566.