เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ผุด EdTech พันล. มุ่งผู้นำการเรียนรู้ครอบคลุมทั่วไทย

02 ธ.ค. 2565 | 11:09 น.

เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ผุด EdTech พันล้าน มุ่งผู้นำการเรียนรู้ครอบคลุมทั่วไทย ชี้ตลาดดาต้ากลุ่มเด็กและผู้ใหญ่กำลังเป็นที่ต้องการค่อนข้างมาก

นายสาธร อุพันวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการต่อยอดธุรกิจ EdTech จนเกิดเป็น Lifelong Learning EdTech Ecosystem หรืออีโคซิสเต็ม เพื่อเทคโนโลยีการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด ตอบสนองการเรียนรู้ทุกช่วงวัยและครอบคลุมทุกกลุ่มคน ไม่ใช่เฉพาะแค่นักเรียนหรือในสถานศึกษา เพราะเชื่อว่ามนุษย์ต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาตลอดชีวิต ทำให้ปัจจุบัน เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ขยายธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

 

  • Out-School หรือธุรกิจสอนพิเศษและแนะแนวการศึกษา คือกลุ่มพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาการนอกเหนือจากในห้องเรียนตั้งแต่วัยประถมถึงมัธยม ผลักดันให้ไปสู่เป้าหมายและมหาวิทยาลัย ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่อในต่างประเทศกับวัยเรียนและวัยทำงาน โดยมีแพลตฟอร์ม Learn Anywhere แอปพลิเคชันเรียนออนไลน์ที่รวบรวมคอนเทนต์จากกลุ่ม Out-School ไว้ใน แอปพลิเคชันเดียว ธุรกิจในกลุ่มนี้ ได้แก่ OnDemand และ Ignite by OnDemand เป็นต้น ซึ่งถือเป็นกวดวิชาภาคไทยและภาคอินเตอร์ของประเทศ
     
  • Chain School หรือธุรกิจบริหารโรงเรียนเอกชน คือธุรกิจบริหารและดูแลหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยปัจจุบันมีโรงเรียนสาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยม หรือ LSP (LEARN Satit Pattana) อยู่ภายใต้การบริหารงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยีและคอร์สเรียนคุณภาพจาก เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ควบคู่กับแผนการเรียนตามเป้าหมายรายบุคคลที่ตรงประเด็นเพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัย และทักษะภาษาอังกฤษมาตรฐาน Cambridge International ทำให้โรงเรียนฯ สามารถเพิ่มจำนวนนักเรียน จากหลักตัวเลข 100 คน เป็น 900 คน ในระยะเวลา 3 ปี

 

สาธร อุพันวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

  • Professional & Skills หรือกลุ่มพัฒนาทักษะการทำงานแห่งโลกอนาคตและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ คือธุรกิจที่มุ่งพัฒนาทักษะใหม่แห่งอนาคตให้กับวัยทำงาน หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะตัวเองให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานโลก โดยธุรกิจกลุ่มนี้ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำระดับประเทศกว่า 500 แห่ง ธุรกิจในกลุ่มนี้ ได้แก่ Skoodio และ Degree Plus เป็นต้น

 

  • In-School หรือธุรกิจผลิตสื่อและเนื้อหาสนับสนุนการสอนในโรงเรียน คือกลุ่มพัฒนาคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน โดยมี Learn Education ดำเนินงานภายใต้การดูแลของบริษัทฯ ด้วยเทคโนโลยี Online Blended Learning Solution หรือการเรียนการสอนออนไลน์แบบผสมผสานที่สามารถให้ผู้เรียนและผู้สอนบูรณาการการเรียนร่วมกัน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาแล้วกว่า 500 โรงเรียน ทั่วประเทศ

นายสาธร กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น เน้นย้ำเรื่องแก่นสำคัญของ EdTech ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ 

 

  • เรื่องคน คือ เราคัดเลือกและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากร พร้อมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ ตอบสนองความต้องการคนในองค์กรที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่กว่า 90% และให้ความสำคัญกับเรื่องการสื่อสารภายในองค์กรเพื่อประสิทธิภาพด้านทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

 

เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ผุด EdTech พันล้าน

 

  • การเรียนรู้ เรามีทีม Learning Design Technology หรือทีมออกแบบเทคโนโลยีการเรียนรู้ ที่ทำหน้าที่วัดความสำเร็จผู้เรียนและปรับการเรียนรู้เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด ตลอดจนสร้างแรงจูงใจเพื่อผลักดันการเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ 

 

  • เทคโนโลยีที่เริ่มจากการศึกษาความต้องการและพฤติกรรมของผู้เรียนอย่างละเอียด ก่อนออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษาในระบบ หรือผู้ให้บริการคอนเทนต์ เพราะแพลตฟอร์มที่ดีควรจะมอบประสบการณ์พร้อมการเรียนรู้ที่ดีควบคู่กับการวัดผลเชิงคุณภาพอีกด้วย 

 

"บริษัทฯให้ความสำคัญกับทั้ง 3 ด้านนี้ เพราะมีเป้าหมายด้าน Social Impact หรือการสร้างผลลัพธ์เพื่อสังคม เพื่อเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้และพัฒนาสังคมในวงกว้างด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่มี โดยปัจจุบัน 4 กลุ่มธุรกิจบริษัท สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม 77 จังหวัด คิดเป็น 500 องค์กร และ 500 โรงเรียน หรือกว่า 2.5 ล้านคน

 

อย่างไรก็ดี ในมุมของธุรกิจ EdTech และดาต้า อาจยังเป็นธุรกิจที่ใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ด้วยความเป็นจริงแล้ว ทั้งตลาด EdTech และตลาดดาต้าของกลุ่มของเด็กและผู้ใหญ่กำลังเป็นที่ต้องการค่อนข้างมาก โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตถึง 3-4 เท่าตัว มีมูลค่าธุรกิจรวมกว่า 1,000 ล้านบาท 

 

ดังนั้นในมุมของการพัฒนาธุรกิจ บริษัทมองเห็นโอกาสที่จะขยายออกไปอีกมาก โดยคาดการณ์ว่าในปีหน้ายอดขายจะมีการเติบโตประมาณ 20% โดยบริ๋ษัทยังมุ่งที่จะพัฒนาระบบการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ EdTech สร้างการเรียนรู้สู่อนาคต และบริษัทฯ มีแผนที่จะผลักดันองค์กรเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อต่อยอดไอเดียและนวัตกรรมของ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ให้แผ่ขยายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น