Meta ไล่กวาดล้าง 6,400 บัญชีสแกมเมอร์กัมพูชา เตือนภัย AI ระบาดหนัก

18 ธ.ค. 2568 | 07:56 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ธ.ค. 2568 | 08:14 น.

Meta เผยแพร่รายงานการจัดการภัยคุกคามเชิงรุกครึ่งปีแรก สรุปสถานการณ์กลโกงออนไลน์และการละเมิดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI โดยเน้นย้ำถึงการจัดการเครือข่ายอาชญากรรมข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

KEY

POINTS

  • Meta ได้ลบบัญชีและเนื้อหาของเครือข่ายสแกมเมอร์จากกัมพูชากว่า 6,400 รายการ ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหลอกลวงผู้คนในหลายประเทศรวมถึงไทย
  • กลุ่มมิจฉาชีพมีการใช้เทคโนโลยี AI สร้างวิดีโอปลอม (deepfake) ของบุคคลมีชื่อเสียง และสร้างกลโกงรับสมัครงานหลายภาษาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
  • Meta รับมือภัยคุกคามด้วยระบบตรวจจับที่ล้ำสมัย และได้ดำเนินการเชิงรุกในไทย โดยลบเนื้อหาและบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงไปแล้วหลายล้านรายการ

Meta ได้เผยแพร่รายงานการจัดการภัยคุกคามเชิงรุก (Adversarial Threat Report) ประจำครึ่งปี ซึ่งสรุปการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระดับโลกเกี่ยวกับกลโกงออนไลน์ ปฏิบัติการเพื่อชี้นำผู้ใช้งาน (influence operations) และการละเมิดต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI 

โดยรายงานฉบับนี้มีประเด็นสำคัญคือการจัดการกับเครือข่ายอาชญากรรมจากกัมพูชา ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจเพื่อหลอกลวงเหยื่อทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีการลบทรัพย์สิน (บัญชีหรือเนื้อหาอื่น ๆ) กว่า 6,400 รายการ (ระหว่างเดือนมกราคม - ตุลาคม 2568) ในหลายประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม

Meta ไล่กวาดล้าง 6,400 บัญชีสแกมเมอร์กัมพูชา เตือนภัย AI ระบาดหนัก นอกจากนี้ รายงานยังเน้นถึงความซับซ้อนและขนาดที่เพิ่มขึ้นของเครือข่ายกลโกงข้ามพรมแดนในภูมิภาคนี้ โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้

เครือข่ายกลโกงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพัฒนาด้านขนาดและความซับซ้อน

ศูนย์สแกมเมอร์มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้เหยื่อใช้แอปแชทแบบเข้ารหัสและช่องทางการชำระเงินทางเลือก โดยการใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยหรือสร้างขึ้นเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือในประเทศนั้น ๆ และขยายการดำเนินงานในวงกว้างด้วยเทมเพลตต้นแบบและระบบอัตโนมัติ กลยุทธ์เหล่านี้ถูกพบอย่างต่อเนื่องในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่การแอบอ้างเป็นผู้อื่นและกลโกงด้านการลงทุนยังคงเป็นภัยคุกคามที่ถูกรายงานมากที่สุด

AI เพิ่มประสิทธิภาพทั้งฝ่ายกลโกงและฝ่ายป้องกัน

กลุ่มสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใช้ AI สร้างวิดีโอลวงในรูปแบบ deepfake โดยนำภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้ (พบมากในออสเตรเลียและอินเดีย) สร้างกลโกงการรับสมัครงานในหลายภาษา และปรับแต่งการติดต่อกับเหยื่อให้เหมาะกับเป้าหมายแต่ละคนในวงกว้าง

Meta ไล่กวาดล้าง 6,400 บัญชีสแกมเมอร์กัมพูชา เตือนภัย AI ระบาดหนัก ขณะที่ Meta รับมือด้วยระบบตรวจจับพฤติกรรมที่ล้ำสมัย การแจ้งเตือนปฏิสัมพันธ์ที่น่าสงสัย การควบคุมภัยคุกคามจากภายใน และมาตรการป้องกัน AI ใหม่ เช่น Llama Firewall และ Rule of Two framework สำหรับ AI agents

 

การดำเนินการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและระดับโลกเพื่อปกป้องผู้คน

  • Meta สนับสนุนการจับกุมของตำรวจสิงคโปร์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายกลโกงที่จัดตั้งเป็นองค์กร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในภูมิภาค
  • บุคคลสาธารณะเกือบ 500,000 คนได้เข้าร่วมโปรแกรมจดจำใบหน้าของ Meta เพื่อลดกลโกงการปลอมตัวที่พบมากในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย ทั้งนี้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 รายงานจากผู้ใช้เกี่ยวกับโฆษณาหลอกลวงที่ใช้คนดังเป็นเหยื่อล่อ เมื่อเทียบกับจำนวนการแสดงผลโฆษณาทั้งหมด ลดลง 22% ทั่วโลก
  • ในระดับโลก Meta ยังคงลบบัญชีปลอมจำนวนมาก และร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สถาบันการเงิน และพันธมิตรข้ามภาคส่วน ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น หน่วยปฏิบัติการพิเศษปราบปรามศูนย์สแกมเมอร์ของกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา  (DOJ’s Scam Center Strike Force)

การดำเนินการเชิงรุก Meta ต่อต้านสแกมในไทย

สำหรับในประเทศไทย Meta ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อต่อต้านการฉ้อโกงและการหลอกลวงออนไลน์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยการจัดการกับเนื้อหา บัญชี และโฆษณาที่ละเมิดนโยบายเกี่ยวกับการฉ้อโกงและการหลอกลวง ดังต่อไปนี้ 

 

  • ลบเนื้อหาบน Facebook กว่า 7.3 ล้านชิ้น และบน Instagram กว่า 15,000 ชิ้น โดยมีเนื้อหาที่ถูกลบก่อนได้รับแจ้งถึง 99% บน Facebook และ 76% บน Instagram 
  • ลบบัญชีผู้ลบบัญชีผู้ใช้บน Facebook กว่า 66,000 บัญชี และบน Instagram กว่า 24,000 บัญชี โดย 65% ของบัญชีบน Facebook และ 86% บน Instagram ถูกลบก่อนได้รับการรายงาน
  • แบนประกาศขายใน Marketplace บน Facebook กว่า 18,000 รายการ โดย 84% ถูกลบก่อนได้รับการรายงาน
  • ลบเนื้อหาโฆษณากว่า 380,000 ชิ้น โดยกว่า 90% ถูกลบก่อนได้รับการรายงาน
  • แบนบัญชีโฆษณากว่า 3,000 บัญชี ก่อนได้รับการรายงานทั้งหมด