โดยการสำรวจยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้บริหารระดับสูงในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ (86%) มีแผนจะเพิ่มการลงทุนด้าน AI ในปี 2025 แต่มีเพียง 41% ที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มทักษะและปรับทักษะใหม่ของพนักงานเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านขององค์กรแม้ว่าตัวพนักงานเองจะพร้อมรับการเข้ามาของเทคโนโลยีก็ตาม
ช่องว่างเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อองค์กรที่จะนำ AI ไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งมุ่งเสริมสร้างความยืดหยุ่นและขับเคลื่อนการเติบโต จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งในการปรับวิสัยทัศน์ด้าน AI ของผู้บริหาร ให้สอดคล้องกับความพร้อมของพนักงาน เนื่องจากช่องว่างด้านการเพิ่มทักษะและการฝึกอบรม อาจกลายเป็นสิ่งที่บั่นทอนความสำเร็จของการนํา AI มาใช้ในหลายองค์กรได้
กระแสการลงทุนใน AI สะท้อนให้เห็นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่ง 86% ของผู้บริหารระดับสูงมีแผนจะเพิ่มการลงทุนด้าน AI แต่มีเพียง 41% เท่านั้นที่วางแผนเพิ่มหรือปรับทักษะของพนักงานให้เท่าทัน
อย่างไรก็ตาม เกือบ 3 ใน 4 ของพนักงาน รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของ AI นั้นเร็วเกินกว่าขีดความสามารถขององค์กรในการฝึกอบรมพนักงานให้เท่าทัน
ช่องว่างความพร้อมด้าน AI ในเอเชียแปซิฟิกจึงเด่นชัด มีพนักงานประมาณครึ่งหนึ่ง (48%) ที่บอกว่า มีความเข้าใจระดับปานกลางเกี่ยวกับการสร้างมูลค่าจาก Gen AI นอกจากนี้ 46% ยังได้เน้นย้ำว่า บริษัทควรมีแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ
คนทำงานในเอเชียแปซิฟิก มีความสนใจใฝ่รู้ แต่ไม่ได้เตรียมความพร้อมมากนักสําหรับอนาคตที่ผู้บริหารกำลังวางแผนให้ขับเคลื่อนด้วย AI พนักงานในเอเชียแปซิฟิกมีการใช้ AI มากขึ้น โดย 55% กล่าวว่า ถ้าต้องการความช่วยเหลือ จะใช้ AI ก่อนที่จะถามเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมทีม ตัวอย่างการใช้ AI ที่ชัดเจนคือ งานวิเคราะห์ข้อมูลที่พนักงาน 51% ระบุถึง รองลงมาคือ การเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง และงานด้านวิจัย
AI มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพและการพัฒนาของพนักงานอย่างเห็นได้ชัด โดย 57% รายงานว่า AI ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้หรือพัฒนาทักษะ และ 51% กล่าวว่า AI ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยมีข้อมูลสนับสนุน
พนักงานแสวงหาโอกาสการเรียนรู้นอกที่ทำงานอย่างมาก เพื่อจะได้เพิ่มพูนทักษะและความเข้าใจด้าน AI พวกเขาเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลภายนอก โดย 57% เรียนรู้ผ่านหลักสูตรหรือติวเตอร์ออนไลน์ และ 52% เรียนรู้จากบล็อกและโซเชียลมีเดีย
ให้ความสำคัญกับการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อรองรับ AI Integration ลงทุนฝึกอบรมให้ตรงจุด พัฒนาทักษะ และให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เพิ่มศักยภาพให้พนักงานและมั่นใจได้ว่าพวกเขาพร้อมที่จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เสริมสร้างความเชื่อมั่นใน AI Agent ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI (Human-AI Collaboration) ในแนวทางที่พนักงานรู้สึกสบายใจที่จะให้ AI Agent ช่วยทำงาน ในขณะที่มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ และต้องสื่อสารกับพนักงานทุกคนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทของ AI Agent
ปรับวิสัยทัศน์ของผู้นําให้สอดคล้องกับประสบการณ์ของพนักงาน เพราะแม้มุมมองต่อศักยภาพของ AI จะเป็นในแง่ดีมากขึ้น แต่พนักงานก็ยังมีความสงสัยและระแวดระวังในการใช้ AI มากกว่าผู้บริหาร ดังนั้น ผู้บริหารจึงควรปรับวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ให้เข้ากับประสบการณ์ของพนักงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของ AI ในองค์กรนั้นจะดำเนินไปโดยคำนึงถึงทุกฝ่าย มีการสื่อสารชัดเจน และตอบสนองความต้องการของพนักงานอย่างแท้จริง
อะนูป ซากู ซีอีโอ เอคเซนเชอร์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วครั้งแล้วครั้งเล่า และการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน จะเห็นได้ว่าเกิดแรงขับเคลื่อนที่รุนแรงแบบมีนัยสำคัญทั่วทั้งภูมิภาคจากการลงทุนด้าน AI แต่สิ่งนี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการสร้างผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญได้ ผู้บริหารหลายคนยังคงลงทุนน้อยเกินไปในการฝึกอบรมพนักงาน ทำให้เกิดช่องว่างด้านความพร้อม ซึ่งจะไปจํากัดศักยภาพที่แท้จริงของ AI เมื่อพนักงานแสดงให้เห็นว่าพร้อมปรับตัว เป็นสิ่งที่ไม่ได้เป็นแค่สัญญาณ แต่เป็นโอกาสในการสร้างทักษะที่จําเป็นในการใช้ประโยชน์จาก AI ให้เต็มที่”
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การลงทุนใน AI และ AI Transformation เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก การขาดแคลนบุคลากรเป็นอุปสรรคสําคัญต่อการนำ AI มาใช้ในองค์กร จึงต้องลงทุนเชิงรุกในการเพิ่มทักษะและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง หัวใจสำคัญคือ วัฒนธรรมที่ให้ความสําคัญกับคนเป็นอันดับหนึ่ง พนักงานได้รับการสนับสนุนให้นำ AI เข้ามาใช้ ไม่ใช่ให้กลัว ผู้บริหารจึงต้องประสานบทบาทของมนุษย์และ AI สร้างความเชื่อมั่นไว้ใจ ลดการต่อต้าน และสร้างอนาคตที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของมนุษย์ ไม่ใช่เข้ามาแทนที่”