Google Maps พลิกโฉมใหญ่ ผสาน Gemini ยกระดับนำทาง สั่งงานด้วยเสียงไร้รอยต่อ

Google ประกาศการอัปเกรดครั้งสำคัญของ Google Maps ด้วยการผนวกขีดความสามารถของ Gemini ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI อัจฉริยะเข้ากับระบบนำทาง เพื่อทำให้การขับขี่และการเดินทางง่ายและชาญฉลาดกว่าเดิม

การอัปเกรดนี้เป็นการเปิดตัวประสบการณ์การขับขี่แบบสนทนาที่ควบคุมด้วยเสียงแบบแฮนด์ฟรีครั้งแรกใน Google Maps โดย Google ระบุว่า Gemini จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเพื่อนร่วมเดินทางที่รอบรู้ ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือและข้อมูลที่แม่นยำแก่ผู้ขับขี่ได้ตลอดเส้นทาง

การสั่งงานแบบแฮนด์ฟรีที่ซับซ้อนขึ้น

การนำ Gemini เข้ามาสู่ประสบการณ์การขับขี่แบบแฮนด์ฟรีในแอปพลิเคชัน Google Maps ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการงานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เช่น การค้นหาสถานที่ที่อยู่ตามเส้นทาง การตรวจสอบสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือการแชร์เวลาถึงที่หมาย (ETA) โดยไม่จำเป็นต้องละสายตาหรือมือจากพวงมาลัย

ผู้ใช้สามารถจัดการภารกิจที่มีหลายขั้นตอน เช่น: "มีร้านอาหารราคาประหยัดที่มีตัวเลือกอาหารมังสวิรัติอยู่ตามเส้นทางในระยะสองสามไมล์หรือไม่? ... ที่นั่นมีที่จอดรถอย่างไร?" ตามด้วยคำสั่งว่า "ตกลง ไปที่นั่นเลย"

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถขอให้ Gemini จัดการภารกิจส่วนตัวอื่น ๆ ได้ เช่น "คุณช่วยเพิ่มกิจกรรมฝึกซ้อมฟุตบอลพรุ่งนี้ตอน 5 โมงเย็นลงในปฏิทินด้วยได้ไหม?" โดย Gemini สามารถเชื่อมต่อกับปฏิทินและเพิ่มกิจกรรมให้โดยอัตโนมัติ เมื่อได้รับอนุญาต

ผู้ใช้ยังสามารถถามคำถามที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น "เมนูไหนเป็นที่นิยมของที่นั่น?" หรือติดตามข่าวสารและผลการแข่งขันกีฬาล่าสุดได้โดยที่ไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย

การรายงานเหตุการณ์และการแจ้งเตือนเชิงรุก

เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของ Google Maps ในฐานะเครื่องมือช่วยขับขี่ Google ได้ทำให้การรายงานการจราจรติดขัดทำได้ง่ายขึ้น ผู้ขับขี่สามารถรายงานสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วเพียงพูดว่า "ฉันเห็นอุบัติเหตุ" หรือ "ดูเหมือนมีน้ำท่วมอยู่ข้างหน้า"

นอกจากนี้ Google Maps ยังเพิ่มระบบ การแจ้งเตือนจราจรเชิงรุก (Proactive traffic alerts) โดยจะแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือการจราจรติดขัดอย่างหนักที่อยู่ข้างหน้า แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้เปิดโหมดนำทางอยู่ก็ตาม ฟีเจอร์นี้กำลังเริ่มทยอยเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาบนระบบปฏิบัติการ Android

สำรวจสถานที่ด้วย Lens ที่ขับเคลื่อนโดย Gemini

เมื่อผู้ใช้เดินทางถึงจุดหมายแล้ว Gemini ยังคงช่วยเหลือในการสำรวจสถานที่ได้ผ่านฟีเจอร์ Lens ที่ผสานพลัง Gemini ผู้ใช้สามารถแตะที่ไอคอนกล้องในช่องค้นหา จากนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อส่องไปยังร้านอาหาร ร้านค้า หรือสถานที่สำคัญในมุมมอง

เมื่อมีหมุดแสดงตำแหน่ง ผู้ใช้สามารถแตะที่ไมโครโฟนเพื่อถามคำถามเกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ ได้ทันที เช่น "ที่นี่คือที่ไหนและทำไมถึงเป็นที่นิยม?" หรือ "บรรยากาศภายในเป็นอย่างไร?" การรวมกันระหว่างขีดความสามารถของ Gemini และข้อมูลสถานที่ของ Google Maps จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วเพื่อประกอบการตัดสินใจ

Gemini ในระบบนำทางจะเริ่มทยอยเปิดตัวในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ บนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ในพื้นที่ที่รองรับ Gemini โดยจะมี Android Auto ตามมาภายหลัง ส่วนฟีเจอร์ Lens ที่ผสานพลัง Gemini จะเริ่มทยอยเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาบน Android และ iOS ภายในปลายเดือนนี้