อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง เปิดตัว Amap 2025 เวอร์ชันอัปเกรดครั้งใหญ่ของแพลตฟอร์มนำทาง พร้อมประกาศว่าเป็น “แอปแผนที่ที่เป็น Native AI ตัวแรกของโลก” โดยอาศัยพลังจากโมเดล AI เรือธงอย่าง Qwen ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง
Amap เวอร์ชันใหม่นี้จะทยอยให้บริการกับผู้ใช้งานมากกว่าพันล้านคนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนผ่านของอาลีบาบาไปสู่การสร้างประสบการณ์ผู้ใช้แบบ AI-driven ทั่วทั้งอีโคซิสเต็ม ตามประกาศจากสำนักงานใหญ่ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่การแข่งขันในตลาดแผนที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังร้อนแรงขึ้น โดยฝั่ง Baidu Maps ได้เริ่มนำโมเดล DeepSeek มาใช้สำหรับแนะนำจุดหมายผ่านการสั่งงานด้วยเสียงแล้วเช่นกัน แม้ยังไม่มี AI ผู้ช่วยส่วนตัว และยังต้องพึ่งพาการพิมพ์คำค้นแบบดั้งเดิมอยู่ก็ตาม
สำหรับ Amap 2025 หัวใจหลักอยู่ที่ “Xiao Gao” ผู้ช่วย AI ที่อาลีบาบาร่วมพัฒนากับห้องวิจัย Tongyi Lab โดยมีจุดขายเหนือกว่าฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงทั่วไป ด้วยความสามารถในการ คาดการณ์ความต้องการผู้ใช้, วางแผนเส้นทางตามสภาพจราจรและอากาศแบบเรียลไทม์, ไปจนถึง จองร้านอาหารหรือวางแผนการเดินทางแบบอัตโนมัติ
กัว หนิง ซีอีโอ Amap กล่าวว่า “Spatial intelligence คือความสามารถในการรับรู้ คิดวิเคราะห์ และดำเนินการในมิติของพื้นที่และเวลา ซึ่งจะยกระดับแผนที่จากเครื่องมือที่รับข้อมูลอย่างเดียว ไปสู่ผู้ช่วยที่คาดการณ์ล่วงหน้าได้”
การอัปเกรด Amap ถือเป็นก้าวต่อเนื่องจากยุทธศาสตร์ที่อาลีบาบาประกาศไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าจะเดินหน้าทุ่มทุนขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI ตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยก่อนหน้านี้บริษัทเพิ่งฝัง AI ลงในเบราว์เซอร์ Quark เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และการอัปเกรด Amap ครั้งนี้ก็ถือเป็นหมุดหมายสำคัญอีกจุด
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมชี้ว่า การผนวก AI เข้ากับบริการแผนที่กำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยแพลตฟอร์มนำทางเริ่มแปลงร่างจากแค่แอปแผนที่ มาเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันแบบครบวงจร
ติ่ง เต้าซือ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม กล่าวว่า แผนที่ในอนาคตจะเชื่อมโยงกับบริการไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ และเชื่อมต่อกับแอปอื่น ๆ ได้หลากหลาย นี่คือกสงครามด้านอินเทอร์เฟซและการแข่งขันเรื่องบริการ ที่นักพัฒนาแผนที่ไม่มีสิทธิ์แพ้”
ที่มา Yicaiglobal