ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารใหม่ที่อาจเขย่าบริษัท AI รายใหญ่ของสหรัฐฯ หลังมองว่าบางระบบ AI Chatbot มี “อคติฝั่งเสรีนิยม” หรือที่ฝ่ายขวาเรียกกันว่า “Woke” และหากไม่ปรับให้เป็นกลางทางการเมือง ก็อาจหมดสิทธิ์เข้าถึงงบประมาณของรัฐบาลกลาง
รายงานจาก The Wall Street Journal ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีเป้าหมายชัดเจนต่อบริษัท AI ที่รับเงินจากรัฐ โดยบังคับให้ระบบ AI ต้อง “เป็นกลางและปราศจากอคติทางการเมือง” เพื่อแลกกับการได้รับสัญญาจ้างจากรัฐบาล
บริษัทชั้นนำอย่าง Anthropic, Google, OpenAI และ xAI เพิ่งคว้าเงินทุนรวมกันสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 6.8 พันล้านบาท จากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ผ่านหน่วยงาน Chief Digital and Artificial Intelligence Office (CDAO) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ
แม้ภายในรัฐบาลจะมีเสียงคัดค้านคำสั่งฉบับนี้ โดยเฉพาะจาก David Sacks ผู้มีบทบาทเป็น “AI Czar” และ Sriram Krishnan ที่ปรึกษาด้านนโยบาย AI ของทำเนียบขาว แต่คำสั่งก็คาดว่าจะประกาศภายในสัปดาห์นี้ พร้อมมาตรการอื่นที่มุ่งให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ในสงครามเทคโนโลยี AI จนถึงขณะนี้ ทำเนียบขาวยังไม่มีความเห็นต่อข่าวที่หลุดออกมา
AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้จะยังมีปัญหาเรื่อง “การหลอน” (hallucination) หรือสร้างข้อมูลผิดๆ อยู่มาก โดยบางครั้งปัญหานี้กลายเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายการเมืองใช้โจมตีกันเอง ตัวอย่างเช่น Chat BotGemini ของ Google ที่แสดงภาพบุคคลทางประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยน หรือระบบ Grok ของ xAI ที่เคยถูกจับได้ว่าแสดงข้อความสนับสนุนลัทธินาซี
หลังเข้ารับตำแหน่งไม่นาน ทรัมป์ได้ยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของโจ ไบเดน ที่เน้นการพัฒนา AI อย่างปลอดภัยและไว้ใจได้ ซึ่งในคำสั่งของไบเดนยอมรับว่า AI อาจนำมาซึ่งทั้ง “ประโยชน์และภัย” โดยเฉพาะการซ้ำเติมปัญหาสังคม เช่น การฉ้อโกง ความลำเอียง และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์ยังประกาศโครงการ “Stargate” ร่วมกับซีอีโอของ Oracle แลร์รี เอลลิสัน, มาซาโยชิ ซัน จาก SoftBank และแซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI ซึ่งมีเป้าหมายลงทุนถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 17 ล้านล้านบาท ใน 4 ปีข้างหน้า สำหรับสร้างศูนย์ข้อมูล AI และระบบผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับการใช้งาน AI ทั่วสหรัฐฯ
ที่มา PCMAC