‘แรบบิทส์ฯ’เทงบตอบโจทย์ลูกค้า ชี้ปีหน้า4จีลงสู่ตลาดมวลชนชัดเจน

20 ก.ค. 2559 | 09:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“แรบบิทส์ เทลล์” เผยแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์ ในการเตรียมปรับตัวให้พร้อมต่อการแข่งขัน และการเข้าถึงผู้บริโภค เมื่อไทยเตรียมเข้าสู่ยุค4จี สมบูรณ์แบบ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเผยลงทุนสร้างสตูดิโอ เพื่อพัฒนาโซลูชันให้กับลูกค้า

นายสโรจ เลาหศิริ ผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แรบบิทส์ เทลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4G ของประเทศยังถือว่าอยู่ในจุด เริ่มต้น ถึงแม้จะมีผู้ให้บริการ 4จี มาแล้วกว่า 3 ปี แต่ต้องบอกว่าเข้าสู่ยุคที่ทุกคนตื่นตัวก็เมื่อครั้งที่การประมูลคลื่นครั้งล่าสุดเพิ่งจบลงเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ และผู้ประกอบการเองยังต้องอาศัยเวลาในการลงทุนพัฒนาด้านเครือข่ายระบบ 4จี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น รวมถึงเครื่องโทรศัพท์ส่วนใหญ่ในตลาดที่ยังเป็นมือถือ 2จี และ 3จี อยู่ ฟากโอเปอร์เรเตอร์เองก็ปรับโหมดการแข่งขันสู่ ดาต้า เกม กันอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งดึงลูกค้าเข้าสู่ระบบ 4จี ให้เร็วที่สุด ดังนั้น คาดว่าภายในปีหน้า 4จี ถึงจะลงสู่ตลาดมวลชนทั่วประเทศได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามการเปิดให้บริการ 4จี ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัว เพื่อให้พร้อมต่อการแข่งขันทันที เมื่อวันที่ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4จี สบูรณ์แบบนั้นประกอบด้วย ต่อไปแบรนด์สามารถทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพดีขึ้น และลึกมากขึ้นกว่าเดิม หรือแม้กระทั่งแบรนด์สามารถทำ Real time streaming (การให้บริการแบบทันทีทันใด) ได้อย่างมีคุณภาพยิ่งกว่าเดิม อาทิ การถ่ายทอดสด ของแบรนด์, การบอร์ดคลาส งานแถลงข่าว เป็นต้น

นอกจากนี้แล้วการโหลดข้อมูลที่เร็วขึ้นเป็นการปลดล็อกเรื่องเวลา ในการโหลด ในยุคที่ทุกแบรนด์ต้องมีเว็บไซต์ ในโมเม้นต์ที่เมื่อลูกค้าค้นหาแล้วต้องเจอ เพราะในเฟดบุ๊ก อาจให้ข้อมูลได้ไม่ครบ หรือให้ประสบการณ์ที่ดี หรือทำการสื่อสารกับแบรนด์ไม่ได้ดีเท่าเว็บไซต์ ดังนั้น ปัจจุบันหากโหลดเว็บได้เร็วขึ้น ก็ยิ่งทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพมากขึ้น ทำสื่อสารได้มากขึ้น พวกอี-คอมเมิรซ์ ที่อาศัยการทำธุรกรรมผ่านเว็บ ก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ทำให้ตลาดเติบโตขึ้นด้วย

นายสโรจ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มีความอดทนน้อยลง และคิดมากขึ้นก่อนจะใช้ 4จี ผู้บริโภคจะมีข้อมูลในใจ เพราะแม้ว่า 4จี จะเร็วเทียบเท่าไวไฟ แต่คนจะมอง ไว-ไฟ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ คือ โหลดได้ไม่จำกัดปริมาณ แต่จะรู้สึกว่า 3จี, 4จี ต้องเสียเงินเพื่อโหลด ต้องซื้อแพกเกจข้อมูลแน่นอนว่าค่าบริการ 4จี จะแพงกว่า3จี คนจึงยิ่งหวงการใช้ 4จี มากขึ้น จะไม่ใช่ความเร็ว 4จี พร่ำเพรื่อ เพราะกลัวอินเตอร์เน็ตจะหมดแล้ว ดังนั้น แบรนด์ต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องมากพอที่คนจะยอมสละ 4จี อันมีค่านี้ให้ สิ่งนั้นต้องถูกจริงหรือโดนใจผู้บริโภคจริงๆ

นอกจากนี้แล้ว เมื่อก่อนผู้บริโภคคุ้นเคยกับการใช้ แลบท็อป ต่อเน็ตผ่านไวไฟ เพื่อเข้าหน้าเว็บไซต์ เพราะบนแลบท็อปมีขนาดเครื่องและการเชื่อมต่อที่เร็วกว่า สะดวกกว่า สามารถโชว์ลูกเล่นได้มากกว่า แต่ปัจจุบัน ด้วยเครือข่ายดาต้าที่เร็วมากขึ้น ทำให้คนใช้โทรศัพท์มือถือเข้าเน็ตได้อย่างสะดวก ทุกที่ทุกเวลา และแนวโน้มของการเล่นอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือก็จะยิ่งมากขึ้นตาม ดังนั้น แบรนด์ต้องผลิตคอนเทนต์ที่รองรับมือถือเป็นข้อบังคับพื้นฐานที่จะขาดไม่ได้อีกต่อไป

" เราเห็นภาพและเข้าใจเทรนด์นี้ จึงได้ลงทุนสร้างสตูดิโอ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิต ทำให้สามารถออกแบบและสร้างสรรค์คอนเทนต์ดิจิตอลได้รวดเร็ว และล้ำสมัยยิ่งกว่า ซึ่งเราพร้อมทำงานร่วมกับทุกองค์กร และทุกแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจและสร้างสรรค์สังคมดิจิตอลไปด้วยกัน โดยวางเป้าหมายในอนาคต สู่การเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิตอลโซลูชั่นแบบครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศ ตอบรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ส่งเสริมการพัฒนาทางธุรกิจอย่างยั่งยืนบนรากฐานของดิจิตอล" นายสโรจ กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,175 วันที่ 17 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559