เปิดแผน “ไทยคม” ยุค Space Tech: ลงทุนต่ำ กำไรสูง สเกลรายได้ผ่าน AI วิเคราะห์โลก

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยคมไม่ได้มองตัวเองเป็นเพียงบริษัทดาวเทียม แต่กำลังขยายปีกเข้าสู่ Space Economy โดยเน้นการสร้าง Solution ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง (Practical Solution) โดยแบ่งโครงสร้างธุรกิจหลักออกเป็น 4 ธุรกิจสำคัญดังนี้

1.ธุรกิจดาวเทียม (Core Business)  เรือธงลำใหม่ "ไทยคม 10"  นอจากนี้ ไทยคม ยังคงรักษาฐานธุรกิจดาวเทียมซึ่งเป็นรายได้หลัก (ปัจจุบันกว่า 90%) โดยมีดาวเทียม 2 ดวงใหม่เป็นตัวชูโรง คือ ไทยคม 9  เน้นตลาด อินเดีย เป็นหลัก เป็นดาวเทียมขนาดเล็กที่คาดว่าจะขายเต็มความจุ (Full Capacity) ภายใน 12 เดือนหลังส่งขึ้นสู่อวกาศ

ส่วนดาวเทียมไทยคม 10 (Flagship)  เป็นดาวเทียม Software Defined Satellite ดวงแรกๆ ของภูมิภาค มีความยืดหยุ่นสูง ปัจจุบันมียอดจอง (Secured) แล้วกว่า 60% (จากพาร์ทเนอร์ Eutelsat 50% และอื่นๆ อีก 10%) ตั้งเป้าขายให้ได้ 75% ก่อนยิงดาวเทียม

สำหรับแผนการส่งดาวเทียมใหม่ ไทยค มคาดว่าจะปล่อยดาวเทียม “ไทยคม 9”ดาวเทียมขนาดเล็กในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีหน้า เพื่อรองรับตลาดไทยและอินเดีย ก่อนจะส่งดาวเทียม “ไทยคม 10” ในปี 2027 ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในประเทศฝรั่งเศส 

2. GEO-INT (Geospatial Intelligence): แชมเปี้ยนตัวจริงเรื่องการ Scale คือ ธุรกิจที่ไทยคมภูมิใจ เพราะเป็นการนำภาพถ่ายดาวเทียม (จากพันธมิตรกว่า 20 ดวงทั่วโลก) มาวิเคราะห์ด้วย AI เพื่อใช้งานจริง เกษตร แม่นยำ  วิเคราะห์พื้นที่ปลูกข้าว (ครอบคลุมแล้ว 13 ล้านไร่ จาก 50 ล้านไร่) และอ้อย เพื่อตรวจสอบน้ำท่วม ภัยแล้ง และการเผาป่า (PM 2.5)

จุดเด่นคือ ลงทุนต่ำแต่ Scale  จำนวนมาก (High Margin) เพราะใช้พลังการประมวลผลแทนการใช้คน เตรียมผลักดันเป็นโครงการระดับประเทศร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ

3. ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO - Low Earth Orbit) ไทยคมกำลังรุกตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการสื่อสารยุคใหม่  Global Star  เตรียมอัปเกรดระบบเพื่อรองรับ Satellite to Phone (ร่วมกับ Apple ใน iPhone) สำหรับส่งข้อความ SOS ในที่อับสัญญาณ LEO Broadband เตรียมเปิดตัวพันธมิตรรายใหม่ต้นปีหน้า เพื่อรุกตลาด Mobility เช่น อินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินและเรือสำราญ ซึ่งดาวเทียมปกติทำได้ยาก

4. ความมั่นคง (Defense & Security) ขยายบริการไปยังกองทัพและหน่วยงานความมั่นคง ทั้งการสื่อสารชายแดน และเทคโนโลยีต้านโดรน (Anti-Drone) เพื่อตอบรับสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน

สำหรับมูลค่าการตลาดของอุตสาหกรรมดาวเทียมมีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเติบโตเฉลี่ยราว 9% ต่อปี โดยรายได้หลักของไทยคมยังมาจากธุรกิจดาวเทียมราว 70% ขณะที่ดาวเทียมวงโคจรต่ำ การวิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่าย และบริการด้านความมั่นคง คิดเป็นสัดส่วนรวมอีกราว 30%

นายปฐมภพ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โครงสร้างการเงินและพันธมิตรใหม่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ Gulf  ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและปลดล็อกข้อจำกัดหลายอย่าง Financial Strength Gulf ช่วยในเรื่องการจัดหาแหล่งเงินกู้ (Financial Advisor) และสร้างความน่าเชื่อถือกับสถาบันการเงิน ต้นทุนทางการเงิน  ไทยคมเลือกกู้เงินจาก BPI France (Exim Bank ฝรั่งเศส) มูลค่ากว่า 184 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพราะได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าแบงก์ในไทย และมีระยะเวลาผ่อนชำระนานกว่า เนื่องจากเป็นการสนับสนุนการซื้อดาวเทียมจาก Airbus (ฝรั่งเศส)

"เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่การขายช่องสัญญาณดาวเทียม แต่ คือ การเป็นเครื่องยนต์หลัก (Engine) ของ Space Technology ในระดับสากล โดยใช้จุดแข็งของ ไทยคม ที่มีทั้งประสบการณ์ที่ให้บริการทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ที่ไทยคมได้เข้าไปดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี ผ่านบริษัทลูก “ไอพีสตาร์ อินเดีย” โดยมีลูกค้าหลักคือรัฐบาลอินเดียและ BSNL รัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมที่มีภารกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบทกว่าแสนหมู่บ้าน ดังนั้นธุรกิจดาวเทียม เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่องอีกด้วย"นายปฐมภพ กล่าว.