Spotify โชว์รายได้ไตรมาส 3 แตะ1.59 แสนล้าน ผู้ใช้พรีเมียมพุ่ง 281 ล้านบัญชี
Spotify เผยผลไตรมาส 3/2025 แข็งแกร่ง ผู้ใช้พรีเมียม 281 ล้าน MAU 713 ล้าน รายได้ 4.3 พันล้านยูโร (ราว 1.59 แสนล้านบาท) กำไรโต 28% พร้อมปรับโครงสร้างผู้นำ
KEY
POINTS
- Spotify ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 มีรายได้รวม 1.59 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า
- จำนวนผู้ใช้งานแบบพรีเมียมเพิ่มขึ้นเป็น 281 ล้านบัญชี ขณะที่ผู้ใช้งานรายเดือนทั้งหมด (MAUs) อยู่ที่ 713 ล้านบัญชี
- การเติบโตได้รับแรงหนุนจากฐานลูกค้าที่จ่ายเงินซึ่งขยายตัวขึ้น และการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น ระบบเสียงคุณภาพสูง (Lossless Audio)
Spotify แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงและพอดแคสต์ระดับโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 แข็งแกร่งต่อเนื่อง จากแรงหนุนจำนวนผู้ใช้แบบพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยดึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตเหนือประมาณการของตลาด
บริษัทมีผู้สมัครใช้งาน Spotify แบบพรีเมียม (Premium Subscribers) อยู่ที่ 281 ล้านบัญชี ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานประจำรายเดือน (Monthly Active Users: MAUs) อยู่ที่ 713 ล้านบัญชี หนุนให้รายได้รวมแตะ 4.3 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.59 แสนล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 37 บาทต่อยูโร) เพิ่มขึ้นราว 12% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Income) เพิ่มขึ้น 28%
ด้านผู้นำองค์กร นายแดเนียล เอก (Daniel Ek) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) Spotify ประกาศย้ายไปรับตำแหน่งประธานบริหาร (Executive Chairman) เริ่มปี 2026 โดยมอบหมายให้ นายกุสตาฟ เซอเดอร์สตรอม (Gustav Söderström) และ นายอเล็กซ์ นอร์สตรอม (Alex Norström) เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEOs) เพื่อสานต่อการเติบโตและเสริมระบบบริหารองค์กร
นักวิเคราะห์ประเมินว่า การเปลี่ยนผ่านผู้บริหารของ Spotify เกิดขึ้นในจังหวะที่บริษัทมีฐานสมาชิกแข็งแรง และยังมีช่องทางขยายตัวในตลาดใหม่ โดยเฉพาะเอเชียและลาตินอเมริกา ซึ่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่การแข่งขันในตลาดสตรีมมิงยังดุเดือด จาก Apple Music และ YouTube Music
Spotify กำลังก้าวเข้าสู่เฟส “ขยายจากฐานใหญ่ไปสู่ความลึกในตลาดใหม่ โดยตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้ใช้ยังมีช่องว่างการเติบโตมาก Spotify อาจเร่งแผนการตลาดเพื่อเพิ่มสมาชิกพรีเมียม เช่น การลดราคาโปรโมชั่น การจับมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม หรือการเพิ่มฟีเจอร์ที่เหมาะกับพฤติกรรมผู้ใช้ท้องถิ่น
นอกจากนี้ Spotify ยังปรับปรุงคุณภาพเสียง (lossless) และฟีเจอร์ด้านการมีส่วนร่วมผู้ใช้ (user engagement) อาจเป็นจุดขายที่สำคัญในตลาดที่มีการแข่งขันมาก เช่น ไทย เพราะผู้ใช้ Gen Z และมิลเลนเนียลมักมองหาประสบการณ์ “หูฟังดี เสียงดี ฟีเจอร์เยอะ”
อย่างไรก็ดี ความสำเร็จอาจขึ้นอยู่กับต้นทุนการได้มาซึ่งผู้ใช้ (user acquisition cost) และอัตราการยกเลิก (churn) ซึ่งในภูมิภาคที่ยังไม่แก่ตัวเต็มที่นั้นอาจสูงกว่า ทำให้ต้องมีโมเดลต่อเนื่องไม่ใช่แค่ดึงผู้ใช้มาใหม่