KEY
POINTS
นายพีระเชฎฐ์ พงษ์ศิริ ผู้อำนวยการส่วน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวในงานงาน Thailand Economic Outlook 2026: Out of the Trap จัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ” ภายใต้หัวข้อ Bridging the Digital Divide: Expanding Access to Infrastructure for Inclusive Growth ว่าความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสะดวกสบาย แต่ยังเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา
ท่ามกลางการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็ว การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการใช้งานดิจิทัลกลายเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูล การศึกษา และบริการสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยที่ภารกิจสำคัญของ กสทช. คือการสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีที่เหมาะสม
โดยการมีเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแพร่หลายจะช่วยลดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจ ถ้าหากปล่อยให้ช่องว่างนี้ขยายไปเรื่อย ๆ จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการให้บริการสาธารณะ
ทั้งนี้ กสทช. มีภารกิจตามกฎหมายที่ต้องจัดให้บริการโทรคมนาคมที่มีคุณภาพและเข้าถึงทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ผู้ให้บริการไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแท้จริง
ด้านนายฉัตรบดี ฉัตรภูติ นักวิชาการนโยบายและแผนปฏิบัติการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช. เดินหน้าผลักดันโครงการยูโซ (Universal Service Obligation - USO) เพื่อลดช่องว่างดิจิทัลและขยายการเข้าถึงบริการเทคโนโลยีในพื้นที่ห่างไกล โดยมุ่งหวังให้ประชาชนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการโทรคมนาคมได้อย่างเท่าเทียม
ในด้านสาธารณสุข กสทช. ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขดำเนินโครงการ Telehealth เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 8 ชั่วโมงเพื่อเข้าพบแพทย์เฉพาะทาง โดยนำระบบมาใช้ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้บริการ 4 โรคหลัก ได้แก่ โรคผิวหนัง โรคทางสายตา โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง เพื่อช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและให้ประชาชนได้เข้าถึงแพทย์เฉพาะทางได้สะดวกขึ้น
นอกจากพื้นที่ห่างไกล กสทช. ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในชุมชนแออัดในเมือง โดยสนับสนุนเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและส่งเสริมนวัตกรรมที่ออกแบบสำหรับทุกคน เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นโครงสร้างแห่งโอกาสสำหรับบุคคลเหล่านี้ได้เข้าถึงบริการดิจิทัลและสามารถสร้างรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิต
ในการพัฒนาทักษะดิจิทัล กสทช. ร่วมมือกับ Meta Thailand และ Digital Tips จัดหลักสูตร "Meta Life Skill Unlock Growth with AI for SMB" เป็นคอร์สเรียนออนไลน์พัฒนาทักษะแห่งอนาคต future skills ด้านการตลาดดิจิทัลให้กับเยาวชนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล ผ่านศูนย์ USO-NET และ USO-LAB กว่า 2,189 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยผู้ที่สอบผ่านจะได้รับ certification
นอกจากนี้ กสทช. ยังร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากกลุ่มนี้ยังขาดความรู้ด้าน Digital Skill และ Cyber Security และมักเป็นกลุ่มที่ถูกหลอกลวงออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ โดยอยู่ในช่วงปีที่ 2 ของการดำเนินการ 3 ปี
กสทช. มองว่าการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลไม่ใช่เป้าหมายทางสังคมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโตของประเทศไทย โดยการเข้าถึงเทคโนโลยีและการพัฒนาทักษะดิจิทัลจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุล เมื่อประชาชนมีความรู้แล้วจะสามารถหารายได้พิเศษจากการทำอีคอมเมิร์ซออนไลน์ เพิ่มรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้
โดยการดำเนินงานของ กสทช. ยึดหลัก 3A ของ USO ประกอบด้วย Availability คือการพัฒนาโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล, Accessibility คือการสร้างการเข้าถึงทั้งในมิติสังคมและทักษะดิจิทัล, และ Affordability คือการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนมีกำลังซื้อและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสมดุลและยั่งยืน
กสทช. ยืนยันว่าจะดำเนินภารกิจนี้ให้เต็มที่ ทั้งในมิติของการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมและกว้างไกลที่สุด การส่งเสริมเทคโนโลยีให้ตอบสนองต่อความต้องการของคนทุกกลุ่ม และการสร้างทักษะเพื่อให้ทุกคนมีความรู้ทางด้านดิจิทัลและป้องกันภัยจากการหลอกลวงออนไลน์ โดยมองว่าการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลเป็นสะพานในการเชื่อมโยงโอกาสและความหวังให้แก่ประเทศไทย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืนต่อไป