กสทช. เดินหน้าผลักดันโครงการ USO ลดช่องว่างดิจิทัลทั่วไทย

09 ต.ค. 2568 | 12:29 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2568 | 12:43 น.

กสทช.ผลักดันโครงการยูโซขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสู่พื้นที่ห่างไกล ติดตั้งไวไฟฟรีในโรงเรียน-โรงพยาบาล พร้อมพัฒนาทักษะดิจิทัล สนับสนุนการศึกษาทางไกลและบริการเทเลเฮลท์ เพื่อลดช่องว่างและสร้างโอกาสเท่าเทียม

KEY

POINTS

  • กสทช. เดินหน้าโครงการ USO เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล โดยมุ่งขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการโทรคมนาคมให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ
  • โครงการมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านการศึกษาผ่าน e-Learning ในโรงเรียนชายขอบ และด้านสาธารณสุขผ่านโครงการ Telehealth เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น
  • นอกจากการขยายโครงข่ายแล้ว กสทช. ยังร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัลและการตลาดออนไลน์ รวมถึงให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและกลุ่มเปราะบาง

นายพีระเชฎฐ์ พงษ์ศิริ ผู้อำนวยการส่วน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.  กล่าวในงานงาน Thailand Economic Outlook 2026: Out of the Trap จัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ”  ภายใต้หัวข้อ Bridging the Digital Divide: Expanding Access to Infrastructure for Inclusive Growth ว่าความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสะดวกสบาย แต่ยังเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา

ท่ามกลางการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็ว การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการใช้งานดิจิทัลกลายเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูล การศึกษา และบริการสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยที่ภารกิจสำคัญของ กสทช. คือการสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีที่เหมาะสม

โดยการมีเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแพร่หลายจะช่วยลดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจ ถ้าหากปล่อยให้ช่องว่างนี้ขยายไปเรื่อย ๆ จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการให้บริการสาธารณะ

กสทช. เดินหน้าผลักดันโครงการ USO ลดช่องว่างดิจิทัลทั่วไทย ดังนั้น การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศได้อย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ กสทช. มีภารกิจตามกฎหมายที่ต้องจัดให้บริการโทรคมนาคมที่มีคุณภาพและเข้าถึงทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ผู้ให้บริการไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแท้จริง

ด้านนายฉัตรบดี ฉัตรภูติ นักวิชาการนโยบายและแผนปฏิบัติการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  กล่าวว่า กสทช. เดินหน้าผลักดันโครงการยูโซ (Universal Service Obligation - USO) เพื่อลดช่องว่างดิจิทัลและขยายการเข้าถึงบริการเทคโนโลยีในพื้นที่ห่างไกล โดยมุ่งหวังให้ประชาชนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการโทรคมนาคมได้อย่างเท่าเทียม

กสทช. เดินหน้าผลักดันโครงการ USO ลดช่องว่างดิจิทัลทั่วไทย ในด้านการศึกษา กสทช. เน้นการเข้าถึง e-Learning ในโรงเรียนห่างไกลและพื้นที่ชายขอบ ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร โดยพบว่าบางโรงเรียนมีครูเพียง 2 คน ดูแลนักเรียน 20-30 คน ที่มีอายุตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งต้องเรียนรวมกัน การนำ e-Learning มาใช้จะช่วยพัฒนาศักยภาพนักเรียน ให้เขาได้เรียนในสิ่งที่ต้องการ รวมถึงพัฒนาบุคลากรและครูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในด้านสาธารณสุข กสทช. ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขดำเนินโครงการ Telehealth เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 8 ชั่วโมงเพื่อเข้าพบแพทย์เฉพาะทาง โดยนำระบบมาใช้ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้บริการ 4 โรคหลัก ได้แก่ โรคผิวหนัง โรคทางสายตา โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง เพื่อช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและให้ประชาชนได้เข้าถึงแพทย์เฉพาะทางได้สะดวกขึ้น

นอกจากพื้นที่ห่างไกล กสทช. ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในชุมชนแออัดในเมือง โดยสนับสนุนเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและส่งเสริมนวัตกรรมที่ออกแบบสำหรับทุกคน เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นโครงสร้างแห่งโอกาสสำหรับบุคคลเหล่านี้ได้เข้าถึงบริการดิจิทัลและสามารถสร้างรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิต

กสทช. เดินหน้าผลักดันโครงการ USO ลดช่องว่างดิจิทัลทั่วไทย

ในการพัฒนาทักษะดิจิทัล กสทช. ร่วมมือกับ Meta Thailand และ Digital Tips จัดหลักสูตร "Meta Life Skill Unlock Growth with AI for SMB" เป็นคอร์สเรียนออนไลน์พัฒนาทักษะแห่งอนาคต future skills ด้านการตลาดดิจิทัลให้กับเยาวชนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล ผ่านศูนย์ USO-NET และ USO-LAB กว่า 2,189 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยผู้ที่สอบผ่านจะได้รับ certification

นอกจากนี้ กสทช. ยังร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากกลุ่มนี้ยังขาดความรู้ด้าน Digital Skill และ Cyber Security และมักเป็นกลุ่มที่ถูกหลอกลวงออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ โดยอยู่ในช่วงปีที่ 2 ของการดำเนินการ 3 ปี

กสทช. มองว่าการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลไม่ใช่เป้าหมายทางสังคมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโตของประเทศไทย โดยการเข้าถึงเทคโนโลยีและการพัฒนาทักษะดิจิทัลจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุล เมื่อประชาชนมีความรู้แล้วจะสามารถหารายได้พิเศษจากการทำอีคอมเมิร์ซออนไลน์ เพิ่มรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้

โดยการดำเนินงานของ กสทช. ยึดหลัก 3A ของ USO ประกอบด้วย Availability คือการพัฒนาโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล, Accessibility คือการสร้างการเข้าถึงทั้งในมิติสังคมและทักษะดิจิทัล, และ Affordability คือการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนมีกำลังซื้อและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสมดุลและยั่งยืน

กสทช. ยืนยันว่าจะดำเนินภารกิจนี้ให้เต็มที่ ทั้งในมิติของการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมและกว้างไกลที่สุด การส่งเสริมเทคโนโลยีให้ตอบสนองต่อความต้องการของคนทุกกลุ่ม และการสร้างทักษะเพื่อให้ทุกคนมีความรู้ทางด้านดิจิทัลและป้องกันภัยจากการหลอกลวงออนไลน์ โดยมองว่าการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลเป็นสะพานในการเชื่อมโยงโอกาสและความหวังให้แก่ประเทศไทย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืนต่อไป