เปิดตัว iPhone Air ดีไซน์บางเฉียบ ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท
Apple เปิดตัว iPhone Air รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา มุ่งผสานความบางเบาและประสิทธิภาพที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีใน iPhone รุ่นก่อนๆ มาพร้อมกับฟีเจอร์ระดับโปรทั้งการถ่ายภาพที่คมชัดและการใช้งานที่ยาวนานตลอดวัน
KEY
POINTS
- เปิดตัว iPhone Air ดีไซน์ใหม่บางที่สุดเพียง 5.6 มม. ใช้วัสดุไทเทเนียม พร้อมจอ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว
- ขับเคลื่อนด้วยชิป A19 Pro มาพร้อมกล้องหลัก Fusion 48MP และกล้องหน้า 18MP รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K HDR
- มี 4 สีให้เลือก ความจุเริ่มต้น 256GB ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท เริ่มวางจำหน่าย 19 กันยายนนี้
จอห์น เทอร์นัส (John Ternus) รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าวว่า iPhone Air ออกแบบใหม่หมด โดยทรงพลัง แต่บางและเบาจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้จนกว่าคุณจะได้ถืออยู่ในมือ และการออกแบบตลอดจนงานวิศวกรรมที่เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีนวัตกรรมของ Apple โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Apple Silicon
ดีไซน์สุดล้ำ
iPhone Air มาพร้อมกับดีไซน์ที่บางที่สุดในประวัติศาสตร์ของ iPhone โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 5.6 มม. และน้ำหนักเบา แต่ยังคงทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยวัสดุไทเทเนียมเกรด 5 ที่ไม่เพียงแต่แข็งแรง แต่ยังให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัย ด้านหน้ามาพร้อมกับ Ceramic Shield 2 ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากระจกที่ใช้ในสมาร์ทโฟนอื่นๆ ทั้งยังทนการขีดข่วนได้ดีขึ้นถึง 3 เท่า
จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้วของ iPhone Air รองรับ ProMotion ที่สามารถปรับอัตรารีเฟรชได้สูงสุดถึง 120Hz ทำให้การเลื่อนดูหน้าจอและการเล่นกราฟิกต่างๆ ลื่นไหลไม่สะดุด นอกจากนี้ยังมีความสว่างสูงสุดถึง 3,000 นิต ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน iPhone Air ได้ง่ายๆ ในทุกสภาพแสง
กล้องอันทรงพลัง
iPhone Air มาพร้อมกล้องหลัก Fusion 48MP ที่รองรับการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นในสภาวะแสงน้อยหรือกลางแจ้ง ด้วยเทคโนโลยี Quad-pixel ขนาด 2.0µm ทำให้การถ่ายภาพมีความคมชัดและสีสันสดใส รวมถึงกล้องหน้า 18MP ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Center Stage ซึ่งช่วยให้การถ่ายเซลฟี่และการวิดีโอคอลทำได้ง่ายขึ้น โดยอัตโนมัติจะขยายมุมมองภาพให้อยู่ในเฟรมโดยไม่ต้องหมุนโทรศัพท์
iPhone Air ยังมาพร้อมกับระบบกล้องที่รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K HDR ซึ่งทำให้ภาพวิดีโอที่บันทึกมีความละเอียดสูงสุดและมีคุณภาพเสียงที่สมจริง โดยสามารถบันทึกเสียงในระบบเชิงมิติพื้นที่ (Spatial Audio) ทำให้ประสบการณ์การรับชมวิดีโอใน iPhone Air สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ขุมพลัง Apple Silicon
iPhone Air ใช้ชิป A19 Pro ซึ่งเป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจาก Apple ด้วย CPU แบบ 6-core และ GPU แบบ 5-core ทำให้การประมวลผลและการใช้งานต่างๆ บน iPhone Air รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมระดับ AAA หรือการใช้โมเดล AI ในการประมวลผล
นอกจากนี้ iPhone Air ยังมาพร้อมกับชิป N1 ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งทำให้การเชื่อมต่อกับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 6 มีความเสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับโมเด็ม C1X ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อเครือข่ายเซลลูลาร์ได้สูงสุด 2 เท่าและประหยัดพลังงานได้ถึง 30%
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน
iPhone Air มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ตลอดวัน โดย Apple ได้ออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยชิป Apple Silicon และสถาปัตยกรรมภายในที่ช่วยให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
การเชื่อมต่อที่สะดวกด้วย eSIM
iPhone Air มาพร้อม eSIM ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีขนาดบางลงและสะดวกในการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มากกว่า 500 รายทั่วโลก รวมถึง AIS และ True-dtac
iOS 26 ที่ล้ำสมัย
iPhone Air ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 26 ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน เช่น การแปลภาษาแบบสดในแอปข้อความและ FaceTime, การปรับแต่งโฟกัสในภาพถ่าย, และการเพิ่มความสามารถในแอปต่างๆ เช่น Apple Music และ CarPlay รวมถึงเครื่องมือใหม่สำหรับการโทรและข้อความเพื่อให้ผู้ใช้สามารถจดจ่อกับสิ่งที่สำคัญ
ราคาและการวางจำหน่าย
- iPhone Air มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำสเปซแบล็ค สีขาวปุยเมฆ สีทองอ่อน และสีสกายบลู
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นที่ 256GB รวมถึง 512GB และ 1TB
- iPhone Air เริ่มต้นที่ 39,900 บาท
- เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 19 กันยายนนี้