นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์, รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(depa) กล่าวในงาน THAILAND SMART SME 2025 “SMART SOLUTIONS & SUSTAINABLE GROWTH” จัดโดย Posttoday ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปราะบาง โดยเฉพาะภาคธุรกิจ SME ซึ่งมีจำนวนกว่า 3 ล้านรายทั่วประเทศ และเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อน GDP ถึงราว 40% ตามข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) อย่างไรก็ตามธุรกิจกลุ่มนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับธุรกิจระดับ M-size ที่ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจาก BOI จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเต็มจำนวน 100% จากมูลค่าการลงทุนในเทคโนโลยี เช่น Cloud, AI และ IoT โดยสามารถสะสมสิทธินี้ได้นาน 3 ปี ซึ่งแตกต่างจากมาตรการลดหย่อนทั่วไปที่ลดภาษีเพียงบางส่วน
นอกจากนี้ depa ยังเดินหน้าเสริมทักษะให้แรงงาน SME ผ่านโครงการ Digital Skill Roadmap โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการอบรมบุคลากรให้สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริงได้ โดยสามารถนำค่าอบรมไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 250% หากเป็นการอบรมแรงงานใหม่ที่จบการศึกษาไม่เกิน 1 ปี และจ้างงานต่อเนื่อง ยังสามารถนำเงินเดือนของแรงงานดังกล่าวมาลดหย่อนได้อีก 150% เป็นเวลา 12 เดือน โดยจำกัดวงเงินเดือนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
“มาตรการทั้งหมดนี้ คือการช่วย SME ลดต้นทุนและความเสี่ยงในการลงทุนด้านเทคโนโลยี ขณะเดียวกันก็เป็นแรงจูงใจให้ธุรกิจไทยใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้ไม่ถูกหลอก หรือได้ของไม่มีคุณภาพ”
ทั้งนี้ depa ยังเตรียมงบสนับสนุนโดยตรงผ่าน Matching Fund รายละ 200,000 บาท สำหรับผู้ประกอบการ 100 รายแรกในภาคอุตสาหกรรม และอีก 100 รายในภาคบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตร โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครในเดือนสิงหาคมนี้ และสามารถนำส่วนต่างที่เหลือไปใช้ร่วมกับสิทธิทางภาษีที่รัฐจัดไว้
“เป้าหมายของโครงการนี้ไม่ใช่แค่ช่วย SME รอดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นการวางรากฐาน Digital Transformation แบบครอบคลุม (Inclusive) ทั่วประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงในโลกดิจิทัล”