เมื่อใดก็ตามที่ ทิม คุก (Tim Cook) ตัดสินใจวางมือจากตำแหน่งซีอีโอแห่ง Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก ก็แทบจะแน่นอนว่าผู้สืบทอดจะมาจากภายในองค์กรเอง ซึ่งเป็นแนวทางที่ Apple ยึดถือมาโดยตลอด
1. เครก เฟเดอริกี (Craig Federighi) – มือซอฟต์แวร์ตัวพ่อ
เฟเดอริกี วัย 56 ปี คือผู้บริหารที่มีภาพลักษณ์ชัดเจนที่สุดใน Apple โดยเฉพาะในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มักจะเห็นเขาโชว์ซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ อย่าง iOS และ macOS อยู่เสมอ ในฐานะรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เขาเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ทั้งหมดของบริษัท และล่าสุดยังกลายเป็นใบหน้าเบื้องหลัง Apple Intelligence อีกด้วย
แม้จะมีประสบการณ์สูงทั้งจากใน Apple และบริษัทอย่าง NeXT กับ Ariba แต่ปัจจัยเรื่องอายุก็เป็นดาบสองคม หาก คุก ไม่รีบลงจากตำแหน่งในเร็ววันนี้ อาจทำให้ เฟเดอริกี หลุดจากสารบบเมื่ออายุเริ่มแตะเลข 6 ต้น ๆ
2. จอห์น เทอร์นัส (John Ternus) – หัวเรือใหญ่สายฮาร์ดแวร์
ในวัยเพียง 50 ปี เทอร์นัส คือผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดในลิสต์ตัวเต็ง เขาเป็นผู้คุมทัพงานฮาร์ดแวร์ทั้งหมดของ Apple ตั้งแต่ AirPods ทุกเจนเนอเรชัน, iPad ทุกรุ่น ไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านจากชิป Intel สู่ Apple Silicon และล่าสุดยังเข้ามาดูแลทีมโรบอติกส์ที่เดิมสังกัดฝ่าย AI อีกด้วย
แม้จะไม่โดดเด่นในสื่อเท่า เฟเดอริกี แต่ด้วยความรู้เชิงเทคนิคแน่นปึ้กและอายุที่เหมาะสม เทอร์นัส จึงถูกมองว่าเป็น "ม้ามืด" ที่น่าจับตา
3. เกร็ก จอสเวียก (Greg Joswiak) – นักการตลาดมือทอง
แม้จะไม่ใช่ "นักเทคนิค" โดยตรง แต่อิทธิพลของเขาในแวดวงผู้ใช้และนักพัฒนา Apple ก็ไม่น้อยหน้าใคร
ยังมีตัวเลือกอื่นอีก
นอกจาก 3 รายชื่อข้างต้น ยังมีผู้บริหารระดับสูงอีกหลายคนที่มีศักยภาพพอจะก้าวขึ้นเป็นซีอีโอ หนึ่งในนั้นคือ ซาบิห์ ข่าน (Sabih Khan) วัย 59 ปี ผู้สืบทอดตำแหน่งซีโอโอจาก เจฟฟ์ วิลเลียมส์ โดยตรง แม้ชื่อของเขายังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ด้วยบทบาทซีโอโอที่เกี่ยวข้องกับแทบทุกมิติของธุรกิจ เขาจึงอาจเป็น "ทิม คุก คนต่อไป" ก็เป็นได้ เช่นเดียวกับที่ คุก เคยรับบทบาทนี้มาก่อนในยุคของ สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs)
อีกคนที่ถูกพูดถึงคือ เอ็ดดี คิว (Eddy Cue) วัย 60 ปี ผู้ปลุกปั้นธุรกิจบริการ (Apple Services) ให้กลายเป็นหนึ่งในรายได้หลักของบริษัท รวมถึง เดียร์เดร โอไบรอัน (Deirdre O’Brien) วัยราว 59 ปี ที่คุมทั้งแผนกค้าปลีกและทรัพยากรบุคคล แม้เธอจะเคยถูกวิจารณ์เรื่องท่าทีต่อต้านสหภาพแรงงาน แต่ก็เป็นคนใน Apple มาเกือบ 40 ปี
กรณีของ โอไบรอัน ยังสะท้อนแนวทางชัดเจนของ Apple ว่าบริษัทแห่งนี้ ไม่ชอบเสี่ยงกับคนนอก โดยเปรียบเทียบกับ แองเจลา อาเรนดต์ (Angela Ahrendts) อดีตผู้บริหาร Burberry ที่ลาออกทันทีหลังครบสัญญาใน Apple
Apple ไม่รอให้ใคร "เรียนรู้งาน"
ไม่ว่าการเปลี่ยนผ่านอำนาจจะเกิดขึ้นแบบปุบปับหรือค่อยเป็นค่อยไป สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ Apple ต้องการผู้นำที่ "พร้อมทำงานทันที" ด้วยขนาดและความซับซ้อนของบริษัทที่มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ การรอให้ซีอีโอคนใหม่เรียนรู้งานแบบค่อยเป็นค่อยไปจึงไม่ใช่ทางเลือก
และนั่นคือเหตุผลที่ Apple มักมองหาผู้นำจากภายในเสมอ คนที่ไม่เพียงรู้จัก Apple แต่เป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของ Apple มาอย่างยาวนาน
หาก ทิม คุก จะลงจากตำแหน่งในเร็ว ๆ นี้ สงครามชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของ Apple จึงอาจเริ่มต้นแล้วในเงามืด… และผู้ชนะจะเป็นใคร ก็คงขึ้นอยู่กับ "เมื่อไหร่" ที่เขาจะลุกจากเก้าอี้เท่านั้น
ที่มา Appleinsider