หัวเว่ย หนุนใช้ 5G-A ดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโตต่อเนื่อง

26 มิ.ย. 2568 | 06:59 น.

หัวเว่ยเดินหน้าหนุนใช้นวัตกรรม 5G-A ดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโตต่อเนื่อง หลังต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเทคโนโลยี AI

นายเอริค สวี รองประธานและประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้เข้าสู่ช่วงของการพัฒนาอย่างมั่นคง และเผชิญกับความท้าทายในการเติบโตในรูปแบบใหม่ หลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นเวลากว่าสี่ทศวรรษ

โดยแนวทาง 4 ประการ ที่จะผลักดันการเติบโตต่อไป ประกอบด้วย 1.การตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลง และรองรับดีมานด์ใหม่ที่มีศักยภาพสูง 

,2.การเพิ่มปริมาณและการบริโภควิดีโอความคมชัดสูง (HD) ผ่านความร่วมมือในระบบนิเวศ ,3.การขยายบริการ 5G สู่ยานยนต์ เพื่อสร้างการเติบโตใหม่ในตลาดยานยนต์อัจฉริยะเชื่อมต่อ 

และ4.การนำ FTTR (Fiber to the Room) เข้าสู่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสด้าน AI

“ผู้ให้บริการแต่ละรายมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นตลาด สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ หรือภูมิทัศน์ในการแข่งขัน ดังนั้นแนวทางการเติบโตก็ต้องแตกต่างกันด้วย โดยหัวเว่ยพร้อมร่วมมือเพื่อช่วยผู้ให้บริการ ค้นหาโอกาสเฉพาะของตนและพัฒนาเส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวร่วมกัน”

โดยประเทศจีนได้กลายเป็นผู้นำระดับโลกด้าน 5G-A ซึ่งได้ให้บริการแล้วกว่า 300 เมือง ผู้ให้บริการในจีนเสนอแพ็กเกจ 5G-A ในมากกว่า 30 มณฑล และมีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านราย ผู้ให้บริการในจีน ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่น ๆ ก็กำลังสำรวจแนวทางใหม่ในการสร้างมูลค่าจากประสบการณ์การใช้งาน ผ่านการเปิดตัวบริการอัปเกรดระดับพรีเมียม  

ซึ่ง 5G-A เป็นเครือข่ายความเร็วสูงเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้งาน และช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ความอัจฉริยะในหลายภาคส่วน เช่น สมาร์ทลิฟวิ่ง การคมนาคม และการผลิต

หัวเว่ย หนุนใช้ 5G-A ดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโตต่อเนื่อง

นายเอริค  กล่าวอีกว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ความสำเร็จของโมเดลการสร้างรายได้จากประสบการณ์ใหม่ ๆ ยังเป็นสัญญาณว่า อุตสาหกรรมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเติบโต ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนสื่อสารกัน ตลอดจนการมีปฏิสัมพันธ์กับองค์กรและสังคม

โดยผู้ให้บริการต่างมีจุดแข็งเฉพาะตัวในด้านคลาวด์ เครือข่าย ความอัจฉริยะ และการประมวลผล ทำให้สามารถตอบรับคลื่นการเปลี่ยนแปลงของ AI และต่อยอดการประยุกต์ใช้อย่างหลากหลาย โดยพวกเขากำลังพลิกโฉมบริการ โครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินงานด้วย AI ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ของการเติบโตทางธุรกิจ

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการจำนวนมากได้รีแบรนด์ตนเองเป็นผู้ให้บริการเอเจนต์ AI ที่มีคุณภาพสูง แบบบูรณาการและปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะในตลาดสมาร์ทโฮม มีการยกระดับบริการเดิมให้สามารถประสานการทำงานของอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตร่วมกับเทคโนโลยีภายในบ้าน

ขณะที่ภาคบริการภายในยานยนต์ ผู้ให้บริการก็กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ ด้วยการผสานเอเจนต์ AI เข้ากับเทคโนโลยี V2X (Vehicle-to-Everything) เพื่อสร้างพื้นที่ที่สามบนยานพาหนะซึ่งอัจฉริยะ เคลื่อนที่ได้ และพร้อมสร้างรายได้รูปแบบใหม่ ส่วนภาคธุรกิจผู้ให้บริการกำลังเสริมขีดความสามารถของตนผ่านการยกระดับบริการโครงข่ายการประมวลผล และบริการที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล AI เพื่อสนับสนุนการผลิตและการดำเนินงานอย่างลึกซึ้ง

 ทั้งนี้ การนำเครือข่าย 5G-Advanced มาใช้ในเชิงพาณิชย์ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2568 หัวเว่ยได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด เพื่อสำรวจว่านวัตกรรม AI สามารถนำมาใช้เพื่อปรับเปลี่ยนบริการ โครงสร้างพื้นฐาน และการดำเนินงานด้านโทรคมนาคม เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่โลกอัจฉริยะต่อไป

อย่างไรก็ตามหัวเว่ยได้นำเสนอความก้าวหน้าล่าสุดในการสร้างรายได้จากประสบการณ์การใช้งาน 5G Advanced (5G-A) และบริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI เชิงสถานการณ์ โดยเอเจนต์ AI (AI Agents) ภายในงาน MWC Shanghai 2025 ภายใต้ธีม Accelerating the Intelligent World เพื่อเปิดเวทีพูดคุยกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือระดับโลก พันธมิตรอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาผู้ให้บริการที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าผ่านเทคโนโลยี AI