ระบบโครงสร้างพื้นฐานของ Google Cloud ประสบปัญหาขัดข้องในหลายภูมิภาคเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (13 มิ.ย. ตามเวลาไทย) ส่งผลให้บริการยอดนิยมทั่วโลกตั้งแต่ YouTube, Gmail, Google Maps ไปจนถึงระบบ AI อย่าง Gemini ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว
เหตุขัดข้องเริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณ 00.50 น. ตามเวลาไทย โดยมีผู้ใช้งานจำนวนมากเริ่มรายงานปัญหาการเข้าถึงบริการ Google Cloud จากนั้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง จำนวนการแจ้งเตือนปัญหาทะยานขึ้นเกิน 14,700 รายในเว็บไซต์ Downdetector บ่งชี้ว่าความเสียหายขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว สู่บริการสำคัญทั้งของ Google และของผู้ให้บริการรายอื่น
แม้ Google จะสามารถกู้ระบบกลับมาได้บางส่วนในเวลาประมาณ 02.27 น. และประกาศว่าบริการทั้งหมดกลับมาใช้งานได้ตามปกติภายในเวลา 04.41 น. แต่บริษัทก็ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคของสาเหตุในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นมีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานหลัก เช่น ระบบจัดการการรับส่งข้อมูลหรือการกระจายโหลดในเครือข่าย (network routing / load balancing)
จุดที่สร้างความกังวลให้กับผู้เชี่ยวชาญคือ “ความเชื่อมโยง” ของระบบไอทีในยุคใหม่ ที่พึ่งพาโครงสร้างร่วมกันผ่านผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ ทำให้การขัดข้องในจุดใดจุดหนึ่งอาจลุกลามเป็นวิกฤตในระดับโครงสร้างพื้นฐานโลก ตัวอย่างชัดเจนคือ Gemini ระบบ AI ของ Google เอง ซึ่งแม้แต่เทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ก็ไม่รอดจากผลกระทบ
เหตุการณ์นี้กลายเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับองค์กรทั่วโลกที่ฝากความหวังไว้กับผู้ให้บริการคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็น Google Cloud, Amazon Web Services หรือ Microsoft Azure ถึงแม้บริการเหล่านี้จะมีมาตรฐานความน่าเชื่อถือสูง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ “ไม่มีวันพัง”
หลังจากเหตุการณ์นี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเสนอแนะให้องค์กรเร่งทบทวนแผนสำรองข้อมูล ระบบสำรองข้ามภูมิภาค หรือแม้แต่การเตรียมผู้ให้บริการสำรองเพื่อกระจายความเสี่ยง พร้อมทั้งตรวจสอบข้อตกลง SLA (Service Level Agreement) ว่าผู้ให้บริการมีข้อกำหนดรับผิดชอบหรือชดเชยอย่างไรในกรณีระบบล่ม