นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการปราบโจรออนไลน์ ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินมาตรการหลายส่วนประกอบดังนี้
1.การตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) โทรสายด่วน 1441 และยกระดับเป็น ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เพื่อกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุ รับคำร้องทุกข์ สั่งระงับธุรกรรมทางการเงิน ประสานงานวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้รับรางวัลระดับ WSIS Prize 2025 จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็น 1 ในประเทศที่ได้รับรางวัลระดับ Champion Project ประเภท Category 5: Building confidence and security in the use of ICTs
2.การเสนอกฎหมายพระราชกำหนด 2 ฉบับ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา และมีการนำเสนอ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ได้แก่
2.1.พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568
2.2.พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568
3.ผลการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในห้วงเวลาที่ผ่านมา
3.1การปราบปรามจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ เดือน เมษายน 2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
3.2. การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ (ปีงบประมาณ 68 ตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 - 30 เม.ย. 68)
3.3. การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน ผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 เม.ย. 68 มีดังนี้
3.4. มาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า และ SMS แนบลิงก์
ขณะเดียวกันจากการบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ปัจจุบันมูลค่าความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ลดลงเฉลี่ยประมาณ 30 - 40 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งลดลงเป็นจำนวนมากจากในอดีตที่มีมูลค่าความเสียหายวันละกว่า 100 ล้านบาท โดยจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะมีการออกกฎกระทรวงและข้อบังคับอีกกว่า 10 ฉบับอีกด้วย
นอกจากนี้จากสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมา โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ใช้เครื่องมือตรวจวัดแผ่นดินไหวชนิดแบบคาบยาว ซึ่งใช้มากว่า 10 ปี แล้ว จะเป็นการจัดหาเพื่อทดแทนของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อการเฝ้าระวังแผ่นดินไหวภายในและนอกประเทศ โดยที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงกระบวนการ มาตรฐานการปฏิบัติงาน รวมทั้งการเกณฑ์การตรวจเฝ้าระวัง เพื่อลดระยะเวลา ให้สิ้นสุดกระบวนการไม่เกิน 20 นาที ขณะเดียวกันกระทรวงดีอี เตรียมการร่างพระราชบัญญัติอุตุนิยมวิทยาขึ้นมาเป็นร่างแรก พร้อมนำเสนอต่อสภา โดยคาดว่าจะกลายเป็นแผนแม่บทในการกำกับดูแลเรื่องภัยพิบัติ