ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส. ออกแถลงการณ์ เรื่อง คัดค้านความพยายามของเอกชนเข้าซื้อฐานลูกค้า NTของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT)เสี่ยงผูกขาดกิจการสื่อสารและโทรคมนาคม กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ กระทบต่อประชาชน
จากกระแสข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอต่อสาธารณะกรณี บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS เสนอซื้อฐานลูกค้าของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมของประเทศ ตามหนังสือจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ปรากฏตามสื่อสาธารณะ ได้เสนอความร่วมมือทางธุรกิจในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการโครงข่ายผ่านคลื่นความถี่ 700 MHz และทรัพย์สินด้านโครงสร้างพื้นฐานของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT โดยมีเนื้อหาสำคัญที่อาจนำไปสู่การใช้ทรัพยากรของรัฐโดยเอกชน
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มีความกังวลอย่างยิ่งว่า กรณีดังกล่าวคงไม่ใช่เพียงแค่การซื้อขาย เชิงธุรกิจ แต่เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้กิจการโทรคมนาคมของประเทศตกอยู่ภายใต้การผูกขาดตลาดอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งเท่ากับว่าการให้บริการการสื่อสารทั้งระบบพื้นฐาน คลื่นความถี่ของโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตก็จะเหลือผู้ให้บริการหลักเพียง 2 รายใหญ่เท่านั้น ซึ่งจะกระทบต่อการใช้บริการโทรศัพท์ทั้งพื้นฐานและโทรศัพท์พกพา และระบบอินเตอร์เน็ตของประชาชน หน่วยงานของรัฐ เช่น สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล องค์กร สถานประกอบการต่างๆ อย่างรุนแรง ทั้งมาตรฐานการให้บริการและราคาที่แพงเพราะระบบการสื่อสารได้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขอสนับสนุน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) องค์กรสมาชิก ที่ได้แสดงจุดยืนคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว ด้วยเหตุผลสำคัญคือ
1. คลื่นความถี่เป็นทรัพย์สินของชาติ ที่ควรอยู่ในการกำกับดูแลของรัฐและเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ควรอนุญาตให้เอกชนรายใดรายหนึ่งเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในลักษณะที่อาจนำไปสู่การผูกขาดหรือใช้อำนาจเหนือตลาดโดยไม่ผ่านกระบวนการที่โปร่งใสและตรวจสอบได้
2. ข้อเสนอความร่วมมือดังกล่าว มีลักษณะคล้ายการแปรรูป NT ทางอ้อม ซึ่งขัดกับหลักการของรัฐวิสาหกิจที่ต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของบริษัทเอกชนรายใหญ่
3. ขาดความโปร่งใส และไม่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่สอดคล้องกับประโยชน์ของประเทศในระยะยาว
4. ละเลยโอกาสในการพัฒนา NT ให้เข้มแข็งด้วยตนเอง ทั้งที่องค์กรมีศักยภาพในการบริหารจัดการคลื่นและทรัพยากรของตนได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการเอกชน
ด้วยเหตุผลข้างต้น สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) จึงขอให้รัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้บริหาร NT ระงับหรือไม่ดำเนินการใด ๆ ที่จะเป็นการสนับสนุนข้อเสนอในหนังสือฉบับดังกล่าว และขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบกระบวนการเจรจาและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ
อีกประการหนึ่งการที่ NT กำลังจะถอยออกจากตลาดมือถือ ไม่ว่าจะด้วยการไม่ขยายฐานลูกค้า หรือไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ล้วนเป็นสัญญาณอันตรายของการล่มสลายของหน่วยงานรัฐในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออธิปไตยของประเทศในระยะยาว เพราะคลื่นความถี่ถือเป็นทรัพยากรสาธารณะที่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งหากรัฐสูญเสียส่วนแบ่งในการครอบครองคลื่นสัญญาณมือถือ ปล่อยให้อยู่ในมือเอกชนเพียงสองรายที่มีลักษณะการผูกขาดอย่างสมบูรณ์แบบ จะทำให้เสียสมดุลในธุรกิจโทรคมนาคมที่มีมูลค่าทางการตลาดหลายหมื่นล้านบาท และจะเกิดผลเสียหากประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤติ
ความน่ากังวลเพิ่มขึ้นเมื่อพบว่าในขณะที่การประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้กำลังใกล้เข้ามา แต่จนถึงขณะนี้คณะรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้มีมติอนุมัติให้ NT เข้าร่วมประมูล ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริหารของ NT ก็ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนหรือประกาศแผนใด ๆ ว่าจะเข้าร่วมแข่งขันเพื่อรักษาคลื่นความถี่ไว้ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่ NT จะสามารถมีคลื่นของตัวเองในอนาคตก็จะยิ่งริบหรี่ลงไปอีก และเปิดทางให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้าสู่ตลาดแบบไร้คู่แข่ง
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มิได้กล่าวให้ร้ายต่อบริษัทเอกชนตามที่ปรากฏเพราะเป็นความประสงค์ในความมั่นคงทางธุรกิจของบริษัท แต่ประชาชนมีส่วนได้เสียโดยตรง จึงเสนอเรียกร้องต่อรัฐบาล หน่วยงานที่จะต้องหยุดยั้งขบวนการดังกล่าว เพราะการปกป้องคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพของประชาชนเป็นภารกิจ เป็นหน้าที่ของรัฐและรัฐบาล สรส. จะติดตาม ตรวจสอบ และคัดค้านอย่างเต็มที่ร่วมกับ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) องค์กรสมาชิก และ สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) รวมถึงเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค องค์กรภาคประชาชน เพื่อหยุดยั้งการดำเนินการดังกล่าวที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและจะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างถึงที่สุด
ก่อนหน้านี้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ชี้แจงกรณีที่ปรากฏในข่าวเกี่ยวกับการเสนอเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่และกิจการบรอดแบนด์ AIS ระบุว่า ตามที่ปรากฏหัวข้อข่าวในหลายสื่อ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า AIS ได้เสนอเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่และกิจการบรอดแบนด์กับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT นั้น
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลงหรือความคืบหน้าใด ๆ โดยหากมีพัฒนาการที่สำคัญ บริษัทฯ จะแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป.