สกมช. ผนึก พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ เสริมเกราะไซเบอร์หน่วยงานรัฐ

สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ร่วมกับพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านความปลอดภัยไซเบอร์ด้วย AI ประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาและยกระดับความมั่นคงปลอดภัยบนระบบคลาวด์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ

โดยมุ่งสนับสนุนการดำเนินงานตามกรอบความมั่นคงปลอดภัยคลาวด์แห่งชาติ (National Cloud Security Framework) และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในบริการ Public Cloud ในภาครัฐภายใต้นโยบาย “Cloud First Policy” ที่รัฐบาลไทยมุ่งขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง

พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการ สกมช. กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ สกมช. ในการสร้างอนาคตดิจิทัลที่ปลอดภัยให้กับประเทศไทย โดยหน่วยงานภาครัฐจะได้รับการสนับสนุนความรู้และความเชี่ยวชาญ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ และช่วยให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องได้อย่างครบถ้วน”

กรอบความร่วมมือแบ่งออกเป็น 4 ด้านหลัก ได้แก่

1.การนำโซลูชันความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์มาใช้สอดคล้องกับมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยคลาวด์แห่งชาติ พร้อมจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านคลาวด์ (Cloud Center of Excellence) เพื่อพัฒนามาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด

2.การประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงการประเมินความพร้อมในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

3.การจัดอบรมและเวิร์กช็อปเพื่อเสริมสร้างทักษะความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้กับบุคลากรภาครัฐและเอกชน พร้อมโครงการสร้างความตระหนักรู้ด้านไซเบอร์อย่างยั่งยืน

4.การสร้างความร่วมมือเชิงรุกระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนานวัตกรรมและแนวทางใหม่ ๆ ในการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ในยุคดิจิทัล

ด้านนายปิยะ จิตต์นิมิตร ผู้จัดการประจำประเทศไทย พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ชี้ว่า “นโยบาย Cloud First เป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการนำระบบคลาวด์มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในยุค AI ที่การใช้งานคลาวด์เติบโตอย่างรวดเร็ว ความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์จึงมีบทบาทสำคัญ เรามุ่งมั่นสนับสนุนด้วยโซลูชันที่ครอบคลุม เพื่อให้ทุกองค์กรสามารถก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างมั่นใจ”

นอกจากนี้ พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ยังเน้นย้ำความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ในยุค AI โดยแนะนำแนวทางสำคัญ 5 ข้อสำหรับปี 2568 ได้แก่

-การใช้แพลตฟอร์มจัดการความมั่นคงปลอดภัยแบบรวมศูนย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อน

-การรักษาความปลอดภัยในการนำ AI มาใช้ ทั้งการจัดการความเสี่ยงและปกป้องห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์

-การปกป้องข้อมูลด้วยระบบอัจฉริยะ เช่น การเข้ารหัสและการบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมากด้วย DSPM

-การปรับปรุงกระบวนการ DevOps ด้วยแนวคิด “Secure by Design” เพื่อความปลอดภัยและต่อเนื่อง

-การสร้างวัฒนธรรม DevSecOps ที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทีมพัฒนาและทีมความปลอดภัยอย่างรอบด้าน

การนำนโยบาย Cloud First มาใช้ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้การให้บริการดิจิทัลแก่ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย และส่งเสริมให้ประเทศไทยเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน