AIS เดินยุทธศาสตร์เรียนรู้–ร่วมแรง– เร่งมือ หนุนปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

08 พ.ค. 2568 | 10:11 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ค. 2568 | 13:30 น.

AIS ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “เรียนรู้ – ร่วมแรง – เร่งมือ” มุ่งสนับสนุน “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” เดินหน้าโครงการ “อุ่นใจไซเบอร์” เสริมความรู้ด้านดิจิทัลแก่ประชาชน 3 ล้านคน

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กลายเป็นภัยระดับชาติที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความปลอดภัยของประชาชนและความเชื่อมั่นในระบบดิจิทัลของประเทศ โดยลักษณะการหลอกลวงมีความซับซ้อนสูง จนแม้แต่บุคคลที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีก็ยังตกเป็นเหยื่อได้

AIS เดินยุทธศาสตร์เรียนรู้–ร่วมแรง– เร่งมือ หนุนปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ AIS ให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยไซเบอร์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเทคโนโลยี ความร่วมมือกับภาครัฐ และการให้ความรู้แก่ประชาชน โดยล่าสุดได้ประกาศสนับสนุน “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้าด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ “เรียนรู้ – ร่วมแรง – เร่งมือ”

ด้านการเรียนรู้ บริษัทได้ดำเนินโครงการ “อุ่นใจไซเบอร์” ตั้งแต่ปี 2019 เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้กับประชาชน ผ่านหลักสูตรอบรมที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมอบรมแล้วกว่า 500,000 คน และตั้งเป้าขยายสู่ 3 ล้านคนในระยะต่อไป

AIS เดินยุทธศาสตร์เรียนรู้–ร่วมแรง– เร่งมือ หนุนปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

ในมิติของความร่วมมือ AIS ได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานด้านความมั่นคง และองค์กรกำกับดูแล อาทิ กสทช. และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด รวมถึงการป้องกันการใช้ซิมผิดกฎหมาย โดยกำหนดให้ผู้ซื้อซิมต้องแสดงตนชัดเจนและผ่านระบบพิสูจน์ตัวตนอย่างเข้มงวด

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้พัฒนาเทคโนโลยีสนับสนุน เช่น ระบบ “Secure Net” สำหรับป้องกันภัยออนไลน์ และสายด่วน 1185 ให้ประชาชนแจ้งเบอร์ต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงจากกลุ่มมิจฉาชีพ

นายสมชัย ระบุอีกว่า ปัญหาภัยไซเบอร์ไม่อาจจัดการได้โดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น จึงจำเป็นต้องผนึกความร่วมมือทุกภาคส่วน ตั้งแต่การสร้างความรู้ การประสานพลัง และการผลักดันให้เกิดการลงมือปฏิบัติจริง โดยหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้างสังคมดิจิทัลที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน