วันนี้ 2 พ.ค.68 พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของรัฐ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ. จังหวัดราชบุรี นายสุธีระ พึ่งธรรม ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม พร้อมด้วย ผู้แทน สกมช. สมาคมธนาคารไทย ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการฯ เพื่อหารือแนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดมาตรฐาน หรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สอดรับกับ พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เม.ย.68 ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า กรณีราชกิจจานุเบกษา ได้มีการประกาศเผยแพร่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เม.ย.68 ที่ผ่านมานั้น เพื่อให้มีการขับเคลื่อนการบังคับใช้ตาม พ.ร.ก. ใหม่เป็นรูปธรรม ได้มีการเรียกประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ เพื่อหารือแนวทางในการกำหนดมาตรฐาน หรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในส่วนของ กสทช. ให้เป็นไปตาม มาตรา 8/10 ที่กำหนดให้ สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานหรือมาตรกร เพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งในส่วนของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น กสทช. เป็นหน่วยงานหลัก ในการกำหนดมาตรฐานหรือมาตรกร เพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตาม พ.ร.ก. ที่ออกมาใหม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด รวมทั้งวางมาตรการป้องกันการหลอกลวงรูปแบบใหม่ๆ เช่น การใช้วิดีโอคอล, Deep fake และ AI generate AI มาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง เป็นต้น
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะเสนอให้ ที่ประชุม กสทช. มีมติกำหนดมาตรฐานหรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สอดรับกับ พ.ร.ก.ที่ออกมาใหม่ โดยเน้นไปที่การเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบอย่างจริงจังของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรคมนาคมต่างๆ ในการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตลอดจนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการส่งข้อมูลที่จำเป็น เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการทุกรายยังต้องมีหน้าที่ตามมาตรการต่างๆ ที่กำหนด เช่น
เชื่อว่ามาตรการต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้การป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพมากขึ้น สกัดผู้กระทำผิดให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรคมนาคมต่างๆ ได้.