“หมอลี่” อดีตบอร์ด กสทช. ฟันธง AIS-TRUE แย่งชิงคลื่น 2100-2300 MHz

22 เม.ย. 2568 | 03:29 น.
อัปเดตล่าสุด :22 เม.ย. 2568 | 03:37 น.

“หมอลี่” อดีตบอร์ด กสทช. ฟันธง AIS-TRUE แย่งชิงคลื่น 2100-2300 MHz เหตุมีโครงข่ายเดิมที่ให้บริการในปัจจุบันไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

“ฐานเศรษฐกิจ” เกาะติดความเคลื่อนไหวการประมูลคลื่นความถี่ หลังจากเมื่อวานนี้ (21 เมษายน 2568) คณะกรรมการบอร์ด กสทช. มีมติเอกฉันท์ให้จัดประมูลคลื่นมือถือรอบใหม่ในวันที่ 29 มิถุนายน 2568 จำนวน 4 คลื่นความถี่ โดยได้กำหนดราคาขั้นต่ำของคลื่นความถี่ที่จะนำมาประมูลในปี 2568 ตามมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 11/2568 ดังนี้

850 MHz: 7,738.23 ล้านบาท/1 ชุดคลื่นความถี่ (2x5 MHz)

1500 MHz: 1,057.49 ล้านบาท/1 ชุดคลื่นความถี่ (5 MHz)

2100 MHz: 4,500 ล้านบาท/1 ชุดคลื่นความถี่ (2x5 MHz)

2300 MHz: 2,596.15 ล้านบาท/1 ชุดคลื่นความถี่ (10 MHz)

นายประวิทย์ สี่สถาพรวงศา (หมอลี่) อดีตกรรมการบอร์ด กสทช. เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า คลื่นความถี่ที่เป็นประโยชน์กับภาคเอกชนมากที่สุดในปัจจุบัน คือคลื่นที่ใช้งานอยู่ภายใต้สัญญากับบริษัท NT ได้แก่ ย่านความถี่ 2100 MHz ซึ่งบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือ AIS ใช้งานอยู่ และคลื่น 2300 MHz ซึ่งให้บริการโดยบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้สัมปทานของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยทั้งสองบริษัทได้ควบรวมกิจการกันแล้ว ทั้งนี้ คลื่นความถี่ทั้งสองย่านดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนสิงหาคม 2568

นายประวิทย์ สี่สถาพรวงศา

 

นายประวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากแต่ละค่ายไม่เข้าร่วมประมูลเพื่อนำคลื่นกลับมาใช้งาน จะเกิดปัญหาคลื่นขาดแคลน ส่งผลให้ลูกค้าปัจจุบันประสบปัญหาคุณภาพบริการลดลง

“คลื่นกลุ่มนี้มีโครงข่ายเดิมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงทุนใหม่ แต่หากไม่ประมูล คลื่นก็จะไม่สามารถใช้งานได้ โครงข่ายที่มีอยู่ก็จะไม่ต่างจากเศษเหล็ก” นายประวิทย์กล่าว

 

เขายังกล่าวด้วยว่า “ทั้งสองค่ายจึงจะประมูลคลื่นที่ตนเองทำสัญญากับ NT อยู่เดิมอย่างแน่นอน”

สำหรับคลื่นความถี่ 850 MHz ซึ่งเดิมใช้ให้บริการ 3G หากจะนำมาประมูลเพื่อให้บริการ 4G จำเป็นต้องลงทุนโครงข่ายเพิ่มเติม อีกทั้งคลื่นนี้ยังมีราคาสูงกว่าคลื่นอื่น ๆ ทำให้ทั้งสองค่ายยังไม่ให้ความสนใจ

ส่วนคลื่น 1500 MHz อุปกรณ์ยังไม่พร้อมให้บริการ จึงคาดว่าไม่น่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูล.