ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. วันนี้ 21 เมษายน 2568 สำนักงาน กสทช. จะมีการเสนอข้อสรุปกรอบระยะเวลาดำเนินการและกรอบงบประมาณ ในการจัดสรรคลื่นสำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล หลังจากได้จัดให้มีการรับฟังความเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) เผยแพร่ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล
ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กสทช.ได้จัดทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว 2 รอบ ดังนี้
บอร์ด กสทช.ได้กำหนดวันประมูลคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่รอบใหม่เป็นวันที่ 29 มิถุนายน 2568 หลังจากเปิดขั้นตอนรับคำขอใบอนุญาต และ ตรวจสอบคุณสมบัติตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยจะประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 28 พฤษภาคม 2568 และ ให้ยื่นคำขอเข้าร่วมภายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2568
หลังจากจากนั้นทำการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตที่จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม - 5 มิถุนายน 2568 ก่อนเสนอผลต่อคณะกรรมการ กสทช. เพื่อพิจารณาและแจ้งผลในช่วงวันที่ 6 - 13 มิถุนายน 2568 โดยอุทธรณ์ผลการพิจารณาได้ในวันที่ 16, 17 และ 18 มิถุนายน 2568
กสทช. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 พร้อมจัดการประมูลจำลอง (Mock Auction) เพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ก่อนเข้าสู่การประมูลคลื่นความถี่จริงในวันที่ 29 มิถุนายน 2568
1.ค่าใช้จ่ายสถานที่จัดการประมูล ค่าระบบคอมพิวเตอร์
2. ค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษา/ผู้เชี่ยวชาญ , ค่าจ้างผู้รับตรวจคุณสมบัติผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 5 ล้านบาท
3.ค่าใช้จ่ายในการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทั้งทั้งก่อนและหลังการประมูล 30 ล้านบาท แบ่งเป็น
สำหรับในเรื่องราคาตั้งต้นประมูลทั้ง 6 คลื่นที่ประชุมบอร์ด กสทช. ไม่มีได้การหยิบขึ้นมาหารือ คาดว่าจะใช้ราคาประมูลตั้งต้นเดิมที่สำนักงาน กสทช.เสนอมา คือ การประมูลรวมทั้งสิ้น จำนวน 450 เมกะเฮิรตซ์ รวมราคาเริ่มต้นมีมูลค่า 121,026 ล้านบาท แบ่งเป็นดังนี้
ก่อนหน้านี้ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เปิดเผยว่า AIS มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ทุกย่านความถี่ที่ กสทช.เปิดประมูล แต่ AIS ต้องขอดูราคากลางที่ กสทช.กำหนดรูปแบบเป็นทางการ และ ขึ้นอยู่กับคู่แข่งด้วย
ก่อนหน้านี้ นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า TRUE สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 2100 กับ 2300 เมกะเฮิรตซ์ เพราะทั้งสองคลื่นความถี่ TRUE มีความเชื่อมั่นในคุณสมบัติของเทคโนโลยี เพื่อมาต่อยอดคลื่นความถี่เดิมที่มีอยู่ สำหรับคลื่นความถี่ 6G เป็นเทคโนโลยีในอนาคตที่ยังไม่ถึง.