รายงานข่าวจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รายงานว่า ขณะนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ดำเนินการยกร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การวิจัยในมนุษย์ พ.ศ. .... เพื่อให้มีกฎหมายว่าด้วยการวิจัยในมนุษย์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยเห็นว่า ปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศทั้งในเชิงเศรษกิจ สังคม และวิชาการ
ทั้งนี้ วช. ระบุถึงสภาพปัญหาและเป้าหมายของการจัดทำกฎหมายฉบับนี้ว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับดูแลการวิจัยในมนุษย์โดยเฉพาะ ทำให้สิทธิของผู้รับการวิจัยไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม สมควรจัดระบบการส่งเสริม สนับสนุน กำกับดูแลการวิจัยในมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยให้มีการกำหนดมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์และมาตรฐานการดำเนินการวิจัยในมนุษย์ การกำกับดูแล และการตรวจตราให้การดำเนินการวิจัยในมนุษย์เป็นไปตามหลักจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์และมาตรฐานสากลเพื่อคุ้มครองผู้รับการวิจัย ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาการของประเทศ รวมทั้งส่งเสริมนักวิจัยให้มีผลงานอันเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ โดยมีรายละเอียดด้วยกัน 49 มาตรา
สำหรับ “การวิจัยในมนุษย์” ตามกฎหมายฉบับนี้มีหมายความว่า กระบวนการศึกษาที่ออกแบบอย่างเป็นระบบ และหาข้อสรุปในลักษณะที่เป็นความรู้ที่นำไปใช้ได้ทั่วไปในมนุษย์หรือที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ โดยกระทำต่อร่างกาย จิตใจ เซลล์ ส่วนประกอบของเซลล์ สารพันธุกรรม สิ่งส่งตรวจ เนื้อเยื่อสารคัดหลั่ง และจากข้อมูลที่บันทึกในเวชระเบียนหรือข้อมูลด้านสุขภาพของผู้รับการวิจัย
ทั้งนี้เพื่อให้ได้มา ซึ่งความรู้ด้านชีวเวชศาสตร์ ด้านการสาธารณสุข ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือด้านสังคมศาสตร์ หรือพฤติกรรมศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงการสอบสวนโรคโดยผู้ประกอบวิชาชีพ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
อ่านรายละเอียด : ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การวิจัยในมนุษย์ พ.ศ. ....