ศาลเลื่อนฟังคำพิพากษา "ไตรรัตน์" ฟ้อง 4 บอร์ด กสทช.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

03 ต.ค. 2566 | 10:15 น.

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ เลื่อนนัดฟังคำพิพากษา "ไตรรัตน์" ยื่นฟ้อง 4 บอร์ด กสทช. ปมซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 600 ล้านบาทและเปลี่ยนตัวรักษาการเลขาธิการ กสทช. แทนตัวเองโดยมิชอบ เป็นวันที่ 23 พ.ย.66 เวลา 09.30 น.

3 ตุลาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากา ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 155/2566 ระหว่าง นายไตรรัตน์  วิริยะศิริกุล โจทก์ พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน จำเลย นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันนี้ ทนายโจทก์ผู้รับมอบอำนาจจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 และผู้รับมอบฉันทะจำเลยที่ 5 มาศาล 

จำเลยทั้งห้ายื่นคำร้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงและขอเลื่อนคดี โดยอ้างเหตุว่า การพิจารณาพิพากษาคดีนี้ต่อไปจะกระทบต่อการคัดเลือกเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง  กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 และจำเลยทั้งห้ายังประสงค์ ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ปรากฏตามคำร้อง ฉบับลงวันที่ 2 ตุลาคม 2566 

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจฟ้องซึ่งเป็นขั้นตอน ระหว่างโจทก์กับศาล ในชั้นนี้จำเลยทั้งห้ายังไม่มีฐานะเป็นจำเลย จึงยังไม่มีสิทธิดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ

ส่วนการยื่นคำแถลงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอันสำคัญที่ศาลควรสั่งว่า คดีไม่มีมูลตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 17 กฎหมายกำหนดให้จำเลยยื่นต่อศาลในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำแถลงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอันสำคัญที่ ศาลควรสั่งว่า คดีไม่มีมูลเพิ่มเติมต่อศาลได้ก่อนศาลไต่สวนมูลฟ้องเสร็จสิ้น

ประกอบกับการดำเนิน กระบวนพิจารณาต่อไปยังมีขั้นตอนการตรวจฟ้อง จำเลยทั้งห้ายังไม่ตกอยู่ในฐานะจำเลยตามกฎหมายการดำเนินคดีต่อไปจึงไม่กระทบสิทธิของจำเลยทั้งห้า ตามที่จำเลยทั้งห้าอ้างเป็นเหตุในการขอเลื่อนคดีในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุเลื่อนคดีตามคำร้องของจำเลยทั้งห้ายกคำร้อง 

ศาลได้ตรวจคำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องของโจทก์และรายงานเจ้าพนักงานคดี ชั้นตรวจฟ้องฉบับลงวันที่ 25 กันยายน 2566 แล้ว เห็นว่า เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแต่คำฟ้องยังไม่ได้ระบุข้อเท็จจริง รายละเอียดและพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งห้า

พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 จึงมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องโดยระบุข้อเท็จจริงและรายละเอียดตัวบุคคล เอกสาร หรือวัตถุตามที่โจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยทั้งห้ากระทำผิดตามฟ้อง พร้อมเสนอหรือชี้ช่องพยานหลักฐานที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 

1.ให้โจทก์บรรยายถึงอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการทางวินัยของคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในกรณีเลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ถูกดำเนินการทางวินัย พร้อมทั้งชี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ 

2.ให้โจทก์บรรยายถึงขั้นตอนและกระบวนการดำเนินการทางวินัย ในกรณีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ถูกดำเนินการทางวินัย พร้อมทั้งชี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ 

3.ให้โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยทั้งห้า ที่ทำให้เห็นได้ว่า จำเลยทั้งห้า มีเจตนาร่วมกันดำเนินการทางวินัยกับโจทก์โดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบ และบรรยายให้ชัดเจนว่า จำเลยทั้งห้าแบ่งหน้าที่กันอย่างไร

พร้อมทั้งชี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ เพื่อให้ได้ความแจ้งชัดในข้อเท็จจริงแห่งคดีในการตรวจฟ้องโจทก์ เห็นควรมีหนังสือ ถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พร้อมแนบสำเนาคำฟ้อง เพื่อให้ชี้แจงและกรณีมีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องขอให้แจ้งรวมมาด้วย กับแนบ ระเบียบ คำสั่ง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจัดส่งต้นฉบับเอกสารหรือสำเนาที่เจ้าหน้าที่รับรองความถูกต้อง มายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ดังนี้  

1.ขอให้ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยของรักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติโดย ขอให้ระบุตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอเรื่องในทุกขั้นตอน และผู้ที่มีอำนาจในการดำเนินการแต่ละขั้นตอนโดย ละเอียด รวมทั้งข้อกฎหมาย ระเบียบหรือประกาศที่เกี่ยวข้อง และในการดำเนินการต่อกรณีของโจทก์มีขั้นตอนการเสนอเรื่องอย่างไร 

2.ในอดีตที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติได้เคยมีการดำเนินการทางวินัยบุคคลที่มีสถานะเช่นเดียวกับ โจทก์หรือสถานะเท่าเทียบโจทก์หรือไม่ และมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือประกาศใด 

3.สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบหรือประกาศใด อำนาจหน้าที่รวมถึงมีวัตถุประสงค์ในการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการดังกล่าวอย่างไร 

4.ขอให้ชี้แจงรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด รายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ขอให้จัดส่งเอกสารรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการฯ  เอกสารรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการฯ และเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบ การพิจารณา 

5.ขอให้ชี้แจงขั้นตอนการเสนอเรื่องรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เข้าสู่ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติและในการเสนอเรื่องดังกล่าวของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้มีการเสนอประเด็นเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติพิจารณาอย่างไร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวหรือไม่ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบหรือประกาศใด ขอให้จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อ ประกอบการพิจารณา 

6.การตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี การดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งในการดำเนินการทางวินัยตามกฎหมาย ระเบียบหรือประกาศใดหรือไม่ อย่างไร

ผู้ใดมีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอน หรือให้พ้นจากรักษาการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และผู้ใดมีอำนาจในการลงนามใน คำสั่งดังกล่าว อาศัยอำนาจตามกฎหมายใด ที่ผ่านมาการแต่งตั้ง ถอดถอน หรือให้พ้นจากตำแหน่ง ดังกล่าวมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร ในกรณีที่โจทก์ถูกสอบสวนทางวินัยหรือถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยจะมีผลต่อการพิจารณาคัดเลือกให้แต่งตั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือไม่ อย่างไร 

7. ขอให้จัดส่งคำสั่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ลับ) ที่ 7/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566 

8. ขอให้จัดส่งรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  กรณีการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขัน ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ครั้งที่ 6/2566 ลงวันที่ 20 เมษายน 2566

9. ขอให้จัดส่งรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี การดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขัน ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ครั้งที่ 7/2566 ลงวันที่ 28 เมษายน 2566 

10. ขอให้จัดส่งระเบียบหรือข้อบังคับการประชุมของสำนักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการเสนอเรื่องเข้าสู่ การพิจารณาของที่ประชุมหรือเสนอวาระการประชุม และการลงมติในที่ประชุมทั้งการประชุมแบบปกติและการประชุมลับ 

11. ขอให้จัดส่งรายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติครั้งที่ 13/2566 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2566  ระเบียบวาระที่ 5.22 

ทั้งนี้ หากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์  และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติมีข้อเท็จจริงอื่นที่จะชี้แจงเพิ่มเติมก็ให้ชี้แจงต่อศาล เพื่อให้การชี้แจงข้อเท็จจริงมีความครบถ้วนทุกประเด็น ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น.