ไอบีเอ็ม ย้ำ “AI” ไม่ได้แทนคน แต่ทำงานร่วมคนที่ฉลาดมากขึ้น

19 ส.ค. 2564 | 10:01 น.

ไอบีเอ็ม ระบุชัด AI เทคโนโลยี ไม่ได้เข้ามาแทน “คน” แต่จะเข้ามาทำงานร่วมกับคนที่มีความฉลาดมากขึ้น แนะเสริมทักษะเด็กยุคใหม่รับ งานใหม่ “Gig Woker” ส่วนผู้นำองค์กรต้องเปิดรับฟังความเห็นพนักงาน คู่ค้า และลูกค้า

นางสาวปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีนและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด  กล่าวว่าการแพร่ระบายโควิดปีที่ผ่านมา องค์กรต้องปรับตัวเรื่องการทำงานที่บ้าน  เรียนออนไลน์   แต่มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์  หรือโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการทำงานที่บ้าน และเรียนออนไลน์   ซึ่งส่วนตัวมองว่าไทยมีความพร้อมเพียง 5 เต็ม 10  อย่างไรก็ตามช่วงการระบายปีที่ 2 ระลอก 3  ไทยปรับตัวดีขึ้น โดยมีโควิดเป็นตัวเร่งให้องค์กรเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล   จะเห็นได้ว่า ประเทศไทย  และองค์กร มีความต้องการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม มาช่วยให้เดินหน้าก้าวผ่านวิกฤตไปได้ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน 

ไอบีเอ็ม ย้ำ “AI” ไม่ได้แทนคน แต่ทำงานร่วมคนที่ฉลาดมากขึ้น

มุมมองไอบีเอ็มมองว่าองค์กรมีความต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้โดยพิจารณา  4 เรื่อง  คือ 1.การลดต้นทุน   โดยอนาคตเทคโนโลยี AI จะถูกนำมาใช้งานแทนคน ตัวอย่างเช่น กลุ่มเดอะมอลล์ นำ AI มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค  เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ    พีทีทีเทรดดิ้ง นำระบบออโตเมชัน AI มาใช้จัดระเบียบการทวงหนี้

2.Operation Agility การทำงานจากที่บ้าน ต้องนำข้อมูลมาเก็บไว้บนคลาวด์   โดยเทคโนโลยีคลาวด์รองรับการทำงานจากหลายๆที่พร้อมกัน  ซึ่งข้อมูลบนคลาวด์จะต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลอย่างรวดเร็ว  โดยในระยะหลังไฮบริดคลาวด์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ

3. ไซเบอร์ซิเคียวริตี้  โดยในช่วงโควิดที่ผ่านมา รัฐบาลมีการออกมาตรการเยียวยาประชาชน จะเห็นได้ว่าเกิดสแปมเมล์ หลอกลวงขึ้นมาเป็นจำนวนมาก   เกิดการรั่วไหลข้อมูลองค์กร  ซึ่งการกู้ข้อมูลกลับมาต้องใช้เงินมหาศาล

4.Resilliency วันนี้ภาคการผลิตต้องการความโปร่งใสในซัพพลายเชน  โดยบล็อกเชน และ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยบล็อกเชน จะช่วยเชื่อมระหว่างซัพพลายดีมานด์ กับดีมานด์มาเจอกัน ช่วยเชื่อมต่อช้อมูลระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย

ที่สำคัญหากว่าเราต้องการเปิดประเทศ จำเป็นต้องเอาเทคโนโลยีมาช่วย เทคโนโลยีที่มีส่วนสำคัญคือ ดิจิทัล วัคซีน พาสปอร์ต   เช่นในนิวยอร์ค เปิดเมืองโดยเอาดิจิทัล วัคซีน พาสปอร์ตมาช่วยตรวจสอบการฉีดวัคซีน ซึ่งเทคโนโลยีช่วยเฉพาะการเปิดประเทศ  แต่ช่วยเอสเอ็มอี  ร้านค้า ในการตรวจสอบลูกค้า  หรือแม้แต่การจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น คอนเสิร์ท สามารถกลับมาจัดได้

นางสาวปฐมา กล่าวต่อไปว่า วันนี้เด็กจบใหม่ที่ออกมาต้องเตรียมพร้อมตัวเองอย่างไร  โดยจากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า งาน 70% จะถูกแทนที่ด้วย AIละระบบออโตเมชัน   อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีก็สร้างให้เกิดอาชีพใหม่  อย่างอาชีพฟรีแลนซ์อิสระ Gig  Woker เพื่อรองรับกับสังคมออนไลน์  เศรษฐกิจแบ่งปัน  และพฤติกรรมเด็กยุคใหม่  ทั้งนี้การเกิดของ Gig  Woker ไม่ใช่ประเด็นเทคโนโลยี โดยเด็กยุคใหม่จะต้องมีทักษะทางด้านธุรกิจ  ทักษะการทำงานร่วมกัน  ทักษะการสื่อสาร ทักษะการเป็นผู้นำ   และมีการรีสกิล อัพสกิล  บิ๊กดาต้าไม่ใช่ทักษะที่มีเฉพาะในผู้บริหารไอที หรือคนไอที  แต่จะเป็นทักษะความรู้พื้นฐานของคนทำงานทั่วไป

“วันนี้หลายคนมองว่า AI เทคโนโลยี จะเข้ามาแทนคน  แต่จริงๆ  AI เทคโนโลยี จะเข้ามาทำงานร่วมกับคนที่มีความฉลาดมากขึ้น”

สำหรับผู้นำองค์กร  ต้องปรับตัวโดยเปิดรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน หรือคู่ค้ามากขึ้น ซึ่งไม่ต้องตอบทันที  แต่ต้องนำสิ่งที่รับฟังมามาปรับ  นอกจากผู้นำจะต้องดูแลตัวเอง ครอบครัว  ขณะเดียวผู้นำองค์กรจะต้องมีความคิดตั้งแต่เริ่มต้น เปิดกว้างนวัตกรรม  มีความคิดอยากเห็นนวัตกรรมของไทยออกไปสู่ตัวตลาดโลก   และต้องการการลงทุนวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลักดันนวัตกรรมออกสู่ตลาด