เริ่มแล้ว GISTDA ลุย นำเส้นใยกัญชงและไบโอเรซิ่นผลิตชิ้นส่วนดาวเทียม

01 ก.ค. 2564 | 01:44 น.

GISTDA เตรียมใช้เส้นใยกัญชงและไบโอเรซิ่น ผลิตชิ้นส่วนดาวเทียมกระตุ้น อุตสาหกรรมอวกาศในประเทศ พร้อมสรรหาและพัฒนาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ผลิตเส้นใยธรรมชาติขึ้นไปถึงเส้นใยไฟเบอร์สำหรับวัสดุคอมโพสิทให้ได้

ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด ปฏิบัติงานรองผู้อำนวยการ GISTDA เปิดเผยว่า จากผลการทดสอบและงานวิจัย พบว่าใยกัญชงมีความแข็งแรงเทียบเท่าเส้นใยไฟเบอร์สังเคราะห์ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เราจะเอามาผลิตเป็นชิ้นส่วนประกอบของดาวเทียมที่จะผลิตเองในประเทศ

สำหรับชิ้นส่วนประกอบของดาวเทียมที่สนใจคือ โครงสร้างที่รองรับแผงโซล่าเซลล์ของดาวเทียม เนื่องจากแผงตัวนี้ต้องการความเบาและมีความแข็งแรงทนทานสูง รวมถึงการสั่นสะเทือนของตัวดาวเทียมอีกด้วย หลังจากประสบความสำเร็จ พัฒนาผู้ประกอบการไทยในการผลิตชิ้นส่วนดาวเทียมดวงเล็ก ภายใต้โครงการ THEOS-2 มาแล้ว 

สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือ การค้นหาและพัฒนาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพพอที่จะผลิตเส้นใยธรรมชาติ ให้ขึ้นไปถึงเส้นใยไฟเบอร์สำหรับวัสดุคอมโพสิทให้ได้ ซึ่งผู้ประกอบการกลุ่มนี้ที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นก็คือ กลุ่มเท็กซ์ไทล์และกลุ่มการ์เมนต์ รวมถึงผู้ผลิตด้านอากาศยานขนาดเล็ก หรือผลิตชิ้นส่วนคอมโพสิทส่งต่างประเทศที่เป็นการผลิตเครื่องบินและโดรน และปัจจุบันอยู่ในสายด้านการผลิตดาวเทียมที่มีความร่วมมือกับ GISTDA เช่น Aeroworks, Triumph Group, Carbon Magic โดยกระบวนการทั้งหมดจะต้องมีการทดสอบซึ่งไทย ซึ่งมีแล็ปที่ทำการทดสอบทางด้านคอมโพสิทอยู่แล้วก็คือ Galaxi LAB และเราจะใช้อาคารประกอบและทดสอบดาวเทียมที่ศรีราชาเป็นสถานที่ทดสอบดาวเทียมทั้งระบบ ซึ่งถือว่าเกือบจะทำได้ครบทั้งวงจรแล้ว 

ผลิตชิ้นส่วนดาวเทียม

ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ฯ กล่าวอีกว่า ยังไม่เห็นประเทศไหนในภูมิภาคอาเซียนที่มีการนำเส้นใยกัญชงมาใช้ในอุตสาหกรรมด้านอวกาศมาก่อน แต่ถ้าเป็นในเอเชียที่ใกล้เคียงที่สุดก็จะเป็นญี่ปุ่นที่จะสร้างดาวเทียมโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การนำเส้นใยกัญชงมาผลิตเป็นวัสดุชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมอวกาศจะต้องใช้เส้นใยกัญชงในปริมาณมากพอสมควร แต่ก็น่าจะเพียงพอกับปริมาณที่มีการปลูกภายในประเทศ

ทั้งนี้ หากการนำเส้นใยกัญชงมาผลิตได้เป็นผลสำเร็จ จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมอวกาศภายในประเทศอย่างแน่นอน เพราะเรามีจุดแข็งอยู่ที่การมีฐานการผลิต กระบวนการผลิต และลูกค้าภายในประเทศที่เป็นของเราเอง ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้งานได้ดีและมีความทนทานสูง จะสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศได้ด้วย

เริ่มแล้ว GISTDA ลุย นำเส้นใยกัญชงและไบโอเรซิ่นผลิตชิ้นส่วนดาวเทียม

ปัจจุบันอุตสาหกรรมดาวเทียมภายในประเทศ ยังเติบโตไม่มากนัก แต่ก็มีกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมหลายรายแล้ว หากเรากระตุ้นและสร้างโอกาสให้กับพวกเขาจากสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ภายในประเทศได้ ก็จะเกิดเป็น demand ในอนาคตมากพอสมควร ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตทั้งต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำได้ประโยชน์ร่วมกัน ผู้ใช้และผู้ทำระบบปลายน้ำก็สามารถใช้วัตถุดิบภายในประเทศที่หาได้ และที่สำคัญไม่โดนกีดกันจากต่างประเทศ แล้วเราก็จะสามารถบริหารจัดการภายในประเทศได้อย่างยั่งยืน 

ความแข็งแรงของเส้นใยกัญชง นอกจากวางเป้าหมายที่จะใช้ในอุตสาหกรรมประเภทดาวเทียมแล้ว ยังจะใช้ในอุตสาหกรรมประเภทโดรนและส่วนประกอบของเครื่องบินอีกด้วย ทั้งยังต่อยอดไปที่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ต่างๆได้ ในด้านอุตสาหกรรมอวกาศนั้น GISTDA มีการเตรียมการในเรื่องนี้มามากพอสมควร มี Partner และกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้มแข็งที่จะสร้างอุตสาหกรรมอวกาศในประเทศร่วมกันจากโครงการ THEOS-2

ทั้งนี้ การพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอวกาศถือเป็น New s-curve ที่ทางรัฐบาลได้วางเป้าหมายไว้ การพัฒนาโดยภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนตลอดจนภาคการศึกษาก็จะสามารถช่วยทำให้อุตสาหกรรมอวกาศยั่งยืนต่อไป

ด้าน ดร.ณัฐวัฒน์ หงส์กาญจนกุล หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและเชื่อมโยงธุรกิจนวัตกรรมอวกาศและหัวหน้าห้องปฏิบัติการ Galaxi ของ GISTDA กล่าวว่า บทบาทของ Galaxi LAB ในครั้งนี้ มีส่วนช่วยให้การทดสอบเส้นใยกัญชงและวัสดุประสานตระกูลไบโอเรซิ่นจากธรรมชาติเป็นผลสำเร็จ และที่สำคัญมีส่วนสนับสนุนผู้ประกอบการด้านแอโรสเปซอยู่แล้ว ดังนั้น จึงมีความพร้อมที่จะร่วมผลักดันและดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่

เริ่มแล้ว GISTDA ลุย นำเส้นใยกัญชงและไบโอเรซิ่นผลิตชิ้นส่วนดาวเทียม

ปัจจุบัน Galaxi LAB มีความเชี่ยวชาญในการผลิตการขึ้นรูปจากคาร์บอนไฟเบอร์ตามมาตรฐานที่กำหนด โดยผู้รับบริการที่เป็นผู้ผลิตอากาศยานจะกำหนดมาว่าชิ้นส่วนนี้จะต้องใช้วัสดุประเภทนี้และมีความแข็งแรงประมาณนี้ ต้องผ่านการทดสอบทางด้านมาตรฐานประเภทนี้ เพราะฉะนั้นบริษัทในประเทศไทยที่รับจ้างในการผลิตชิ้นส่วนจะดำเนินการผลิตชิ้นส่วนมาให้ GISTDA เพื่อทดสอบตามขั้นตอนเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ หากผ่านมาตรฐานแล้วก็จะสามารถนำไปใช้งานได้ทันที ทั้งนี้ Galaxi LAB ได้รับการรับรองมาตรฐาน AS9100  ISO/IEC17025 และ NADCAP