เปิดเทรนด์บล็อกเชนปี 64 หนุนความน่าเชื่อถือธุรกิจดิจิทัล

08 ม.ค. 2564 | 07:30 น.

เปิดเทรนด์เทคโนโลยีบล็อกเชนปี 64 หนุนความน่าเชื่อถือ เส้นทางฟื้นฟูสู่ธุรกิจดิจิทัล

      การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิต การทำงาน และการติดต่อกับผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง  กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกเกิดขึ้นบนระบบออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็ว และด้วยเหตุนี้ การเสริมสร้างและรักษาความน่าเชื่อถือของทุกฝ่ายจึงมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก

      กัวเฟย เจียง ประธานกลุ่มธุรกิจ Intelligent Technology ของแอนท์กรุ๊ป  เปิดเผยว่า เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่สามารถป้องกันการแก้ไขปลอมแปลง และรองรับการใช้งานในวงกว้าง นับเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในโซลูชัน บล็อกเชน ซึ่งคาดว่าจะเติบโตถึง 15.9 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2566 โดยเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าจากปี 2561 (1.5 พันล้านดอลลาร์) สำหรับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรธุรกิจต่างๆ คาดการณ์แนวโน้มที่สดใสเช่นเดียวกัน โดย 45% ของบริษัทในภูมิภาคนี้เชื่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการปรับใช้งานในโอกาสต่างๆ มากขึ้นใน 3-5 ปีข้างหน้า

“ความน่าเชื่อถือ” ยังคงเป็นเหตุผลสำคัญในการปรับใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน

       รายงานพิเศษดัชนีชี้วัดความน่าเชื่อถือ (Trust Barometer Special Report) ของเอเดลแมน (Edelman) เปิดเผยว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ราว 60% ของผู้บริโภคที่ตอบแบบสอบถามเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้ในบางประเทศเช่น จีน 89% และอินเดีย 77% ในปี 2564 เทคโนโลยีบล็อกเชนจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการสร้างความน่าเชื่อถือในภาคธุรกิจสำคัญๆซึ่งบล็อกเชนมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการอำนวยความสะดวกสำหรับธุรกิจและการค้า และจะมีการประยุกต์ใช้งานบล็อกเชนอย่างกว้างขวางในด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งบล็อกเชนมีบทบาทสำคัญต่อการติดตามการขนส่งสินค้า และการทำธุรกรรมนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านระบบดิจิทัลแบบไร้สัมผัส โดยจะมีการขยายบทบาทให้กว้างขวางมากขึ้นหลังจากที่ประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก 15 ประเทศได้ลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership - RCEP) 

    เปิดเทรนด์บล็อกเชนปี 64 หนุนความน่าเชื่อถือธุรกิจดิจิทัล

         ที่ผ่านมาธนาคารอาจไม่ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ค้าระหว่างประเทศเพราะอุปสรรคดังกล่าว แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการซื้อขาย ทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ขายในการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอีกด้วยโดยความก้าวหน้าล่าสุดในเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น Cross-chain, Backend-as-a-Service (BaaS) และการประมวลผลข้อมูลที่มีการรักษาความเป็นส่วนตัว จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับส่งข้อมูลอย่างปลอดภัยระหว่างระบบและแอพพลิเคชันต่างๆ นอกจากนี้ยังรองรับความร่วมมือหลากหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมและภูมิภาคต่างๆ ทั้งยังเสริมสร้างความเชื่อมั่น และลดค่าใช้จ่ายสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

     ทั้งนี้ข้อมูลจากการ์ทเนอร์ (Gartner) ชี้ว่า จากการทดลองใช้งานบล็อกเชนทั่วโลก ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละภาคธุรกิจ โดยบางส่วนมีความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้ แทนที่จะเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ในเชิงทฤษฎี เช่น การตรวจสอบติดตามสินทรัพย์ การระบุแหล่งที่มาของสินค้า การชำระเงิน ขณะที่การใช้งานในด้านอื่นๆ ยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างเทคโนโลยีบล็อกเชนยังคงอยู่ในระยะแรกของการพัฒนา  อีกทั้งอุปกรณ์อัจฉริยะหรือสมาร์ทดีไวซ์ (Smart Device) หลายหมื่นล้านตัวที่วางจำหน่ายในตลาดอาจทำให้เราต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะมี Smart Contract หลายแสนล้านรายการที่ทำงานไปพร้อมๆ กันได้อย่างราบรื่น

      ถึงแม้ว่าผลกระทบในระยะยาวของสถานการณ์โควิด-19 ยังคงไม่แน่ชัด แต่ภารกิจสำคัญในปี 2564 และในปีต่อๆ ไปก็คือ การมองหาวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างสมดุลระหว่างความสามารถในการปรับขนาดและความปลอดภัยบนเชน (Chain) ขณะที่เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังได้รับความนิยม แอนท์กรุ๊ป มุ่งมั่นค้นคว้าวิจัยและพัฒนาโซลูชั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายของบล็อกเชน โดยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือซึ่งนับเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก และช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่บริษัทต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเอสเอ็มอีที่ขาดแคลนทรัพยากรที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ