CAT จับมือ Microsoft ให้บริการเชื่อมต่อข้อมูลบนคลาวด์

02 ต.ค. 2563 | 11:11 น.

CAT จับมือ Microsoft Azure เสริมศักยภาพการรับส่งข้อมูลบนคลาวด์ ตอบโจทย์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 economy ดันไทยสู่ดิจิทัล ฮับ แห่งอาเซียน

CAT จับมือ Microsoft ให้บริการเชื่อมต่อข้อมูลบนคลาวด์    นางสาวกวินนันทน์ ภัทร์ชนันท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์สื่อสารข้อมูล บริษัท กสทโทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กล่าวว่า การร่วมมือระหว่าง CAT และ Microsoft ครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อให้บริการคลาวด์มีเสถียรภาพและความปลอดภัยมากกว่าเดิม เนื่องจากปัจจุบันทุกภาคส่วนต่างเห็นประโยชน์ของคลาวด์และมีความจำเป็นต้องใช้คลาวด์มากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องลงทุนเพิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันให้ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณ์และบริการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น 

  “CAT ได้จับมือเป็นพันธมิตร  ExpressRoute Partner เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายความเร็วสูงตรงไปยัง Microsoft Azure ซึ่งจะทำให้ลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนของ CAT สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างสำนักงานหรือศูนย์ข้อมูลของลูกค้า ไปยัง  Microsoft Azure ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น IaaS (Infrastructure as a service) , SaaS (Software as a service)  หรือ PaaS (Platform as a service) ของ Microsoft โดยสามารถใช้งานผ่านโครงข่ายส่วนตัวความเร็วสูงของ CAT ซึ่งทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้นในการใช้งานระบบ Cloud อาทิเช่น ความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูล (Low Latency), ความสมบูรณ์ของข้อมูล (Low Loss) และเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล (Low Jitter) ซึ่งแตกต่างจากการเชื่อมต่อแบบเดิมที่ผู้ใช้บริการเชื่อมต่อไปยังคลาวด์ผ่านอินเตอร์เน็ต 

 ในเบื้องต้น แคท มีแผนจับมือกับผู้ให้บริการคลาวด์อีกหลายราย โดยไมโครซอฟท์ เป็นรายแรกและเป็นรายใหญ่ในประเทศไทย การร่วมมือครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี คาดว่าหลังโปรโมทจะมีลูกค้าของ แคท มากกว่า15% เริ่มนำร่องใช้บริการนี้ในเฟสแรกก่อนที่ตลาดจะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด และไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ลูกค้าของแคทและไมโครซอฟท์ ในกลุ่มประเทศลาวพม่า และกัมพูชา ก็สามารถใช้บริการนี้ได้และได้สิทธิประโยชน์ด้านราคา และความปลอดภัยสูงสุดเช่นเดียวกัน

  CAT จับมือ Microsoft ให้บริการเชื่อมต่อข้อมูลบนคลาวด์  

      ด้านนายวสุพล ธารกกาญจน์ ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคลาวด์ Microsoft Azure บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจไทยเกิดความจำเป็นของระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง มากขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มของธุรกิจทั่วโลก ผลสำรวจระดับโลกพบว่า ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บในระบบคลาวด์ทั่วโลกจะมีปริมาณรวมกันมากกว่า 180 เซตตาไบต์ในอีก 5 ปีนับจากนี้ ปริมาณมหาศาลนี้สะท้อนความจำเป็นของการลงทุนในระบบคลาวด์ขององค์กรเป็นอย่างดี โดยเฉพาะไฮบริดคลาวด์ที่ขยายตัวตามพับลิกคลาวด์เป็นตัวเลข 2-3 หลักต่อปีเพราะช่วยตอบโจทย์เรื่องความยืดหยุ่นให้ธุรกิจ  แต่ปัญหาคือการใช้อินเตอร์เน็ตธรรมดาเพื่อเชื่อมต่อไปยังคลาวด์นั้น อาจไม่ใช่คำตอบ 100% เพราะเสี่ยงต่อการเกิดความล่าช้าหรือดีเลย์ สิ่งที่ Microsoft ร่วมมือกับ CAT จึงเป็นการตอบโจทย์ให้ธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ด้วยการต่อท่อตรงหลังบ้านขององค์กรในรูป Virtual Private Network ตรงไปยังบริการคลาวด์ เพื่อทำให้ลูกค้าได้ความเร็ว, แบนด์วิดท์ตามที่การันตี และรักษาเสถียรภาพบริการด้วย SLA (Service Level Agreement) ตามจริง"

     ทั้งนี้ไมโครซอฟท์พบว่าปัจจัยสนับสนุนให้คลาวด์มีบทบาทในประเทศไทย คือการที่ธุรกิจมองเห็นความจำเป็นของคลาวด์ในยุค Digital Transformation ทำให้หลายองค์กรรับรู้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถยกระดับธุรกิจได้จริง ที่ผ่านมามีตัวอย่างของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้คลาวด์ของไมโครซอฟท์ให้บริการแอพพลิเคชันเยียวยาเกษตรกร ซึ่งเป็นตัวสะท้อนให้เห็นชัดว่าคลาวด์สามารถขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยได้ เช่นเดียวกับบริการเพื่อสุขภาพ ที่หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขนำคลาวด์ของเราไปใช้กับระบบการจัดการยาและเวชภัณฑ์ในแต่ละโรงพยาบาลของไทย เป็นต้น