นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ เบสท์ ประเทศไทย บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2560-2562 ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุ (Parcel Delivery) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 40% ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซ (E-commerce) ไทยที่เติบโตเฉลี่ยประมาณ 18% ต่อปี ทั้งนี้คาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี 2558-2568 มูลค่าธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นถึง 16 เท่า โดยมีมูลค่ากว่า 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 32% และในปี 2568 ทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเช่นกันจาก 5 ปัจจัยสำคัญคือ 1. การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร 2. ความเร็วและการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ง่ายขึ้น 3. การเติบโตของ GDP 4. ระบบการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว และ 5. การซื้อสินค้าแบบออฟไลน์จะลดลง
ทั้งนี้ในปี 2566 คาดว่ารายได้ของแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจ เพิ่มขึ้นถึง 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 450 ล้านคน หรือ 150% ความแพร่หลายของแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซนี้ส่งเสริมให้ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เติบโตขึ้นตามไปด้วย ซึ่งภาพรวมตลาดโลจิสติกส์ ในไทยปี 2562 มีมูลค่าตลาด 4.9 พันบาท เพิ่ม ขึ้น 40% และปี 2563 มีมูลค่าตลาดราว 6.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนจากออฟไลน์และออนไลน์มากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ เบสท์ เอ็กซ์เพรสนั้นในปี 2563-2568 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก best.inc สำนักงานใหญ่ 5 พันล้านบาทเพื่อพัฒนาด้านการขนส่งพัสดุ, เทคโนโลยี, ระบบ supply chain อัจฉริยะ และการลงทุนใน warehouse ทั่วโลก และสำหรับ เบสท์ ประเทศไทยจะใช้งบ 300 ล้านบาท สำหรับ การขยายธุรกิจ ปัจจุบันเบสท์ เอ็กซ์เพรส มียอดการขนส่งพัสดุวันละ 2.5 แสนชิ้น โดยในปี 2563 ตั้งเป้าจำนวนพัสดุเพิ่มขึ้น 10 เท่า
“ถึงแม้ว่าจะเข้ามาทำตลาดในไทยช้ากว่ารายอื่น แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีที่มีจะเข้ามาช่วยให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ ซึ่งเบสท์ เอ็กซ์เพรส มีเป้าหมายที่จะเป็น One Stop Solution ด้านโลจิสติกส์ของไทย ทั้งนี้บริการที่เบสท์คาดว่าจะมีเพิ่มเติมในอนาคตคือ U Cargo และ Best Finance เพื่อสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่าให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ โดยแผนธุรกิจในระยะยาว คือ ตั้งเป้าที่จะให้บริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศได้ในราคาที่ถูกลง”
ด้านนางสาวณัฏฐรัก ดิลกพิทยะรัชต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส เบสท์ ประเทศไทย บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนการทำการตลาดของเบสท์ เอ็กซ์เพรสในแต่ละปีใช้งบการตลาดคิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมด โดยมีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด19 ที่ผ่านมา ทำให้ เบสท์ เอ็กซ์เพรส มองเห็นช่องทางการทำการตลาดมากขึ้น สำหรับกิจกรรมการตลาดครึ่งปีหลังนั้นจะเน้นการตลาดเพื่อที่สอดคล้องกับวิถี New Normal ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปหลังสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้ง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นพรีเซ็นเตอร์หลักของเบสท์
ปัจจุบันเบสท์ เอ็กซ์เพรส มีแฟรนไชส์อยู่ทั่วประเทศมากกว่า 500 สาขา ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์หลัก, แฟรนไชส์รอง, ช็อป และจุดรับพัสดุ โดยคาดการณ์ว่าในปี 2563 จะเพิ่มแฟรนไชส์ทั้ง 4 ประเภท อีกกว่า 800 สาขา และในปี 2565 จะเพิ่มให้ครอบคลุมทั่วประเทศถึง 2,000 สาขา
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,595 หน้า 16 วันที่ 26 - 29 กรกฎาคม 2563