แนะธุรกิจมุ่งโซเชียล ศึกษา New normal หลังพ้นโควิด

21 เม.ย. 2563 | 09:00 น.

นีลเส็น เผยโควิด-19 เป็นตัวเร่งสร้างความคุ้นเคยของเทคโนโลยีแก่คนไทย ดันช็อปออนไลน์-โลคัลแบรนด์โต แนะผู้ประกอบการคว้าโอกาสรับกระแสคนแห่ใช้โซเชียล พร้อมเดินหน้าศึกษา New normal หลังพ้นวิกฤติ

นางสาวสมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศ ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นส่งผลให้พฤติกรรมการช็อปปิ้งของผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่รูปแบบออนไลน์มากขึ้น การรับประทานอาหารนอกบ้านลดลง สวนทางกับการสั่งอาหารดีลิเวอรีที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการออกกำลังกาย และการทำงานที่บ้าน จึงอยากให้ผู้ประกอบการมองว่าเป็นโอกาสที่หลายคนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม ขณะที่เทรนด์ของ Auto Shopping Subscription หรือการสั่งซื้อสินค้าแบบรีฟิลสินค้าเป็นประจำจะทำให้ผู้ประกอบการมี Baseline Revenue ที่ดีและมียอดขายที่แน่นอน อีกทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อลดการสัมผัส อาทิ เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) ช่วยให้สามารถขายสินค้าได้โดยไม่จำเป็นจะต้องมี Personal Touch กับพนักงาน เช่น การลองเครื่องสำอาง การลองเสื้อผ้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งทำให้ผู้บริโภคมีความคุ้นเคยมากขึ้น นอก จากนี้พฤติกรรมการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ผู้บริโภคมีความใส่ใจเรื่องของคุณภาพที่เหมาะสมกับราคามากขึ้น ดังนั้นสงครามราคาจะลดลง

 

แนะธุรกิจมุ่งโซเชียล ศึกษา New normal หลังพ้นโควิด

 

ทั้งนี้ 70% ของผู้บริโภคในเอเชียรวมทั้งประเทศไทยคุ้นเคยกับโลคัลแบรนด์มากพอสมควร ซึ่งผลการวิจัยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าโลคัลแบรนด์เติบโต เพราะผู้บริโภคกังวลในการซื้อสินค้าที่ส่งมาจากต่างประเทศซึ่งก็จะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่เป็นโลคัลแบรนด์ในการขยายการเติบโต ซึ่งเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

สถานการณ์ครั้งนี้ถือเป็น Pandemic ที่ทั่วโลกมีประสบการณ์ร่วมกัน สิ่งที่ค้นพบทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างรุนแรงในระยะสั้นและจะนำพาไปสู่การเป็น New Normal ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังศึกษาอยู่ ทั้งนี้ได้มีการแบ่งระยะของสถานการณ์โควิดเป็น 6 Stage ซึ่งในตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในระยะที่ 3 กำลังจะเข้าระยะที่ 4 จากต้นเดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมการซื้อสินค้าและการเสพสื่อในแต่ละระยะนั้นแตกต่างกัน โดยพฤติกรรมการเสพสื่อในสถาน การณ์นี้มีการรับสื่อหลายช่องทาง ได้แก่ 1. รับชมทางทีวี 2. โซเชียลมีเดีย ที่ขณะนี้คนไทยมีการเช็คข่าวเฉลี่ยต่อคน 12 ครั้งต่อสัปดาห์ 3.แอพพลิเคชันใหม่ๆ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ในร่ม และ 4. การโฆษณาที่ในช่วงเวลานี้ต้องเร่งผลักดันแบบสร้างสรรค์ เนื่องจากคนเป็นกังวลพอสมควรเรื่องของการใช้จ่าย

ขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมจีดีพีทั่วโลกเริ่มติดลบ สำหรับประเทศไทยตอนนี้อยู่ที่ประมาณ -5.3 ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุนอกจากสถานการณ์โควิดแล้ว ปัญหาภัยแล้ง หนี้ภาคครัวเรือน และช่องว่างของรายได้ก็เป็นปัญหาที่สำคัญเช่นกัน ความกังวลหลักๆ ยังคงเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ การว่างงาน อีกทั้งวันนี้คนหันมากังวลเรื่องของสุขภาพมากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงนี้สินค้าจำเป็นยังมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตบวก 2-3% อย่างเช่น อาหาร เครื่องดื่ม แต่สินค้าที่ไม่จำเป็นก็จะดร็อปลง

 

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการต้องเลือกว่าจะไปต่อหรือหากล็อคดาวน์ตัวเองแล้วอยู่เฉยๆ โอกาสต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาดจะหยุดชะงัก เพราะตลาดประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว โดยข้อสรุปคือ 1. การเพิ่มจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ ใครที่ยังขายออฟไลน์อยู่จะต้องคิดแล้วว่าจะใช้ช่องทางออนไลน์อย่างไรเพราะสุดท้ายจะกลายเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวผู้บริโภคต่อไป 2. การขยายพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุม อาทิ ธุรกิจฟู้ด ดีลิเวอรี 3. โลจิสติกส์ ที่ต้องมีความพร้อม และสุดท้าย 4. โซเชียล มีเดีย ที่สามารถสร้างอิมแพ็กต์ได้มากที่สุดที่ผู้ประกอบการต้องหันมาใช้ให้เป็นกลยุทธ์หลัก

 

หน้า 26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,567 วันที่ 19-22 เมษายน 2563