SPRINTปั้นสตาร์ตอัพพันล้าน ผนึก5องค์กรจุดพลุ DeepTechไทยขึ้นยูนิคอร์น

18 ก.ค. 2560 | 10:05 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ ผนึก 4 พันธมิตรชั้นนำระดับโลก เปิดโครงการ SPRINT ปลุกปั้น Deep Tech Startup ไทยกลุ่มวัสดุ เครื่องมือแพทย์ หุ่นยนต์ ขึ้นชั้นระดับยูนิคอร์น หรือมีขนาด 1 พันล้านดอลลาร์

SPRINT แพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตให้กับ Deep Tech Start up หรือ สตาร์ตอัพที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยความร่วมมือของ 5 องค์กรชั้นนำ ได้แก่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(TCELS) บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศศินทร์) KX Knowledge Exchange for Innovation (KX) และ Houston Technology Center จากสหรัฐอเมริกา

โครงการ SPRINT จะเน้นการส่งเสริมสตาร์ตอัพ ในกลุ่มสินค้าและเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์ ด้านสุขภาพและเครื่องมือแพทย์ ด้านหุ่นยนต์ รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยความตั้งใจที่จะต่อยอดไอเดียของสตาร์ต อัพให้เกิดขึ้นจริง และสามารถสร้างธุรกิจในเชิงพาณิชย์ได้

[caption id="attachment_181564" align="aligncenter" width="503"] นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์[/caption]

นายนเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กล่าวว่า พันธมิตรแต่ละองค์กรจะมีจุดเด่นที่จะนำมาผสมผสานช่วยพัฒนา Deep Tech Startup อย่างลงตัว โดย TCELS มีความเชี่ยวชาญด้าน Life sciences เอสซีจี เคมิคอลส์ เป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ครบวงจรรายใหญ่ของไทย และเป็นผู้ผลิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย สถาบันศศินทร์ จะเชี่ยวชาญหลักสูตรบริหารธุรกิจ ส่วน Houston Technology Center มีประสบการณ์ในการพัฒนา Deep Tech Startup และ KX ผู้นำในการพัฒนา ecosystem ให้ Startup ในไทย

“ความเป็นไปได้ในการสร้าง Deep Tech Startup ให้เติบโตจนเป็น Unicorn ที่มีรายได้ระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งโครงการ SPRINT สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ Deep Tech Startup เติบโตเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน”

ทั้งนี้ทีมสตาร์ตอัพที่ได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการ SPRINT จะได้เข้าร่วมคอร์สอบรมเป็นเวลา 3 เดือน จะเน้นการเติมความรู้ในเรื่องของธุรกิจ เช่น ด้านการเงิน การตลาด กฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายสิทธิบัตรซึ่งมี ความสำคัญกับสตาร์ตอัพกลุ่มนี้

รูปแบบการเรียนรู้จะเน้นให้ลงสนามจริง หาข้อมูลจริง โดย SPRINT จะช่วยเป็นตัวกลางที่จะเชื่อมสตาร์ตอัพไปสู่กลุ่มผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่จะช่วยให้สตาร์ตอัพเติบโตยั่งยืน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,279 วันที่ 16 - 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560