ผ่าไทม์ไลน์ ‘พ.ร.บ.กสทช.’ รอลุ้นใครคว้าเก้าอี้
หลังจาก สนช.หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ผ่านร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) (ฉบับที่...)พ.ศ....ในวาระที่ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้ปรับแก้ไขทั้งหมด ด้วยคะแนน 197 เสียง และ งดออกเสียง 2 เสียง จากจำนวนผู้เข้าประชุมทั้งหมด 199 เสียง
พ.ค.ดีเดย์ฯประกาศใช้
ว่ากันว่าหลัง สนช. ผ่านร่าง พ.ร.บ. กสทช.ฉบับใหม่แล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้เพื่อเสนอทูลเกล้าฯเพื่อรอลงระปรมาภิไธย หลังจากนั้นประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อประกาศใช้และมีผลบังคับอย่างเป็นทางการ (ดูตารางประกอบ)
สรรหาคณะกรรมการ
อย่างไรก็ตามเมื่อร่าง พ.ร.บ.กสทช.ประกาศและบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ในกฎหมายระบุชัดเจนว่า ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วนยงานธุรกการในการสรรหาและคัดเลือกกรรมการ ซึ่งในกฎหมายระบุชัดเจนว่า คณะกรรมการสรรหาและคัดเลือกกรรมการ ประกอบด้วย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย , ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ผู้พิพากษาในศาลฎีกา, ตุลาการศาลปกครองสูงสุด , กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งได้รับคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ของหน่วยงานที่สังกัดอย่างละ 1 คนซึ่งจากร่างเดิมที่ให้เป็นหน้าที่ ของสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นอกจากนี้ร่างพ.ร.บ.ยังได้เพิ่มเติมห้ามไม่ให้ผู้พ้นจากตำแหน่ง กรรมการกสทช.เป็นผู้ถือหุ้นส่วนหรือดำรงตำแหน่งใดในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจด้านวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เว้นแต่พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
อย่างไรก็ตามกระบวนการสรรหานั้น คณะกรรมการสรรหาต้องคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการให้ได้จำนวน 2 เท่าของกรรมการแต่ละด้าน ให้ได้ภายใน 30 วันนับแต่ได้รายชื่อผู้สมัคร เพื่อเสนอรายชื่อให้วุฒิสภาลงมติเลือก
บอร์ดเหลือ 7 คน
สำหรับร่าง พ.ร.บ.กสทช. ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเกี่ยวกับองค์ประกอบและคุณสมบัติของกรรมการ กสทช. โดยปรับลดคณะกรรมการ กสทช.จากเดิมที่มีทั้งสิ้น 11 คน เหลือ 7 คน ประกอบด้วย ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ได้แก่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม, วิศวกรรม, กฎหมาย, เศรษฐศาสตร์ คุ้มครองผู้บริโภค และ เพิ่มให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. เพิ่มขึ้น เช่น ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไป ตำแหน่งทางวิชาการต้องสูงกว่ารองศาสตราจารย์ขึ้นไปไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือเป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศตั้งแต่พลโท พลอากาศโท พลเรือโท หรือ พลตำรวจโท ขึ้นไปหรือเคยเป็นผู้บริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองกรรมการผู้จัดการใหญ่ในบริษัทมหาชนที่มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท หรือมีประสบการณ์ทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี นอกจากนี้แก้ไขอายุของกรรมการลดลงจากเดิมกำหนดอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี เป็น 40 ปี และไม่เกิน 70 ปีจากเดิมแค่ 65 ปี
ไม่เพียงเท่านี้ในร่างกฎหมายยังระบุ คุณสมบัติต้องห้ามได้แก้ไขห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังโดยหมายศาล ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือเคยถูกวุฒิสภามีมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง เป็นหรือเคยเป็นกรรมการผู้จัดการผู้บริหารที่ปรึกษาพนักงาน ผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านการกระจายเสียง โทรทัศน์ หรือกิจการด้านโทรคมนาคมในระยะเวลา 1 ปี ก่อนคัดเลือก
บอร์ดเดิมนั่งรักษาการ
อย่างไรก็ตาม หลังมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.กสทช. ฉบับใหม่ คณะกรรมการ กสทช.ยังคงนั่งรักษาการบอร์ดไปก่อน จนกว่ากระบวนการสรรหาแล้วเสร็จและคัดเลือกบุคคลได้ภายในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ เนื่องจากคณะกรรมการ กสทช.ทั้ง 11 คนจะหมดวาระครบเทอมในวันที่ 31 ตุลาคมนี้
พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการ กสทช. เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อ พรบ.กสทช.ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เชื่อว่ารัฐบาลฯจะแต่งตั้งให้บอร์ดชุดเดิมนั่งรักษาการไปก่อน จนกว่ากระบวนการสรรหาแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้
เปิดรายชื่อบอร์ดชุดเดิม
สำหรับงคณะกรรมการ กสทช.ชุดปัจจุบัน ถูกแต่งตั้งและปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 มีวาระการทำงาน 6 ปี คณะกรรมการชุดนี้แบ่งงานออกเป็น 2 ส่วน โดยแบ่งคณะกรรมการย่อย 2 ชุด ชุดละ 5 คน (ไม่รวมประธาน กสทช.) คือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.)
แต่ทว่า กรรมการ กสทช.ในปัจจุบันเหลือเพียง 8 คน 1. พล.อ.อ.ธเรศ ปุณณศรี ประธาน กสทช.,2. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และในฐานะประธาน กทค.,3. พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. และในฐานะประธาน กสท.,4. พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการ กทค. ,5. น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กทค.,6.นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กทค.7. พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสท. และ 8. นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์กรรมการ กสท.
ภายใต้ พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ที่กำลังจะประกาศใช้นั้น รอดูตัวจริงเสียจริงว่า บอร์ดชุดใหม่ 7 คน คือใคร? หรือโผจะพลิกเป็นอย่างอื่น เพราะมีกระแสข่าวว่า 2 ขั้นอำนาจใน กสทช.กำลังงัดข้อกันอยู่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,260 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560