กดปุ่ม! Transform “ตลาดยิ่งเจริญ”สู่ตลาดสดยุควิถีใหม่

24 ก.พ. 2565 | 08:07 น.

ดีป้า ผนึกกำลัง ตลาดยิ่งเจริญ จัดกิจกรรมตลาดต้นแบบ ครั้งที่ 6 ภายใต้โครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ (New Normal) หนุนเอสเอ็มอี ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ยกระดับการบริหารจัดการด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานลูกค้า ลดต้นทุน เพิ่มรายได้

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ใน 6 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครสวรรค์ นครปฐม ชัยนาท สิงห์บุรี และลพบุรี ดีป้า จึงได้ดำเนินโครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ (New Normal) อย่างต่อเนื่อง

กดปุ่ม! Transform “ตลาดยิ่งเจริญ”สู่ตลาดสดยุควิถีใหม่

โดยตั้งเป้าให้ผู้ประกอบการ 30,000 รายสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และนำร้านค้าเข้าแพลตฟอร์มช่องทางการจำหน่ายและจัดส่งสินค้า (Local Application) ด้วยการจับคู่ธุรกิจกับดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital Provider) ใน 6 กลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบรับชำระเงินออนไลน์ (E–payment) ระบบจำลองการสนทนา (Chatbot) ระบบการสั่งอาหาร/สินค้า (Delivery) ระบบขนส่งสินค้า (Logistics) ระบบบริหารจัดการจุดขาย (Point of Sales: POS) และระบบบริการ (Service) เพื่อร่วมเปลี่ยนทุกการซื้อขายสู่ (โลก) ออนไลน์ ปรับทุกไลฟ์สไตล์สู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)

กดปุ่ม! Transform “ตลาดยิ่งเจริญ”สู่ตลาดสดยุควิถีใหม่

"ที่ผ่านมา ดีป้า ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมตลาดต้นแบบเพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายให้กับผู้ค้าในพื้นที่ตลาดต้นแบบ 6 จังหวัดนำร่องอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 โดยกิจกรรมมีขึ้นครั้งแรกที่ ตลาดดอนหวาย จังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 2 ตลาดสดเทศบาลเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ครั้งที่ 3 ตลาดกล้วยกล้วย จังหวัดลพบุรี ครั้งที่ 4 ตลาดสดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี และตลาดบ้านระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ครั้งที่ 5 ตลาดริมน้ำ จังหวัดนครสวรรค์ และล่าสุด ครั้งที่ 6 ตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพฯ โดยได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากเอสเอ็มอี ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย

กดปุ่ม! Transform “ตลาดยิ่งเจริญ”สู่ตลาดสดยุควิถีใหม่

ซึ่ง ดีป้า มั่นใจว่า กิจกรรมดังกล่าวจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ค้า ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น อีกทั้งช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเกิดกลไกหมุนเวียนในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศ อีกทั้งช่วยให้ดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการดิจิทัลสามารถเข้าถึงเครือข่าย ต่อยอด และพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ ยังมีแผนที่จะขยายการรับรู้ไปยังปริมณฑลอีก 4 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ”

ด้าน นางกัญจนิดา ตันติสุนทร กรรมการบริหารตลาดยิ่งเจริญ กล่าวว่า ตลาดยิ่งเจริญ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในตลาดต้นแบบในโครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ (New Normal) และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มช่องทางการจำหน่ายและจัดส่งสินค้าให้กับผู้ค้าใน ตลาดยิ่งเจริญ ให้มีความพร้อมก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดต่อไป

 

โดย ตลาดยิ่งเจริญ นับเป็นตลาดค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ปัจจุบันมีผู้ค้าประจำเฉลี่ย 1,500 แผง มีผู้เข้าใช้บริการกว่า 30,000 คนต่อวัน ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนาตลาดให้เป็นที่ยอมรับจากทั้งผู้ค้า องค์กรธุรกิจ ชุมชน และประชาชนทั่วไปสู่การเป็นตลาดสดมาตรฐานในยุคประเทศไทย 4.0 และเป็น Green Market ภายใต้นโยบายหลัก  “ยิ่งเจริญไปด้วยกัน หรือ Y Together” ซึ่งหมายถึง การก้าวเดินไปด้วยกันอย่างยั่งยืนและมั่นคงพร้อมกับกลุ่มคู่ค้า ลูกค้า และชุมชน ครอบคลุมใน 4 มิติ ได้แก่ การพัฒนา การศึกษา สิ่งแวดล้อม และการแบ่งปัน ขับเคลื่อนตามวิสัยทัศน์ “ศูนย์กลางการค้าต้นแบบ ยกระดับมาตรฐานสากล สุดยอดแหล่งอาหารสุขภาวะสังคม”

 

 “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตอย่างรวดเร็ว ซึ่ง ตลาด      ยิ่งเจริญ ยังคงดำรงบทบาทการเป็นแหล่งอาหารและวัตถุดิบให้กับชุมชน รักษามาตรฐานการส่งมอบวัตถุดิบที่สดใหม่ในราคาที่เป็นธรรม ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการขยายพื้นที่ซื้อขายและบริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ การจัดตั้งหน่วยธุรกิจ ‘ส่งสดดอทคอม’ บริการส่งของสดจากตลาดถึงมือลูกค้าด้วยดิจิทัล โดยคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพและหลากหลายจากทุกร้านค้าภายใต้แนวคิด สด  ครบ จบในที่เดียว ทั้งราคาปลีกและราคาส่ง ตลอดจนการรณรงค์ให้เกิดสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) เป็นต้น” นางกัญจนิดา กล่าว