กฟผ.รับรองแล้ว 347 ราย ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ขาย REC สร้างรายได้เพิ่ม

17 มี.ค. 2567 | 04:59 น.

การตื่นตัวเพื่อลดปัญหาการเปลี่ยนแปลสภาพภูมิอากาศ และกระแสการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานหมุนเวียน ณ เวลานี้เกิดขึ้นในระดับประเทศและในระดับองค์กร

การมีใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน หรือ Renewable Energy Certificate (REC) จึงถือเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถอ้างสิทธิ์การผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ผ่านการซื้อและขายใบรับรอง REC เพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของหน่วยงานหรือองค์กร

ทั้งนี้ การออกใบรับรอง REC จะมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ให้การรับรองแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งปัจจุบันมี REC ที่ผ่านการรับรองซื้อขายแล้ว 16.02 ล้าน REC และถ้ารวมในส่วนของกฟผ.ด้วยแล้วจะอยู่ที่ 20.15 ล้าน​ REC หรือราว 4,902.92 เมกะวัตต์ จากจำนวน 347 ราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก

อย่างไรก็ดี การซื้อขาย REC กำลังจะเปิดโอกาสให้องค์กรและประชาชนรายย่อยที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสามารถขอและขายใบรับรอง REC ได้ง่ายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มให้บริการขึ้นทะเบียนและขายใบรับรอง REC ที่จะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ถือเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อย และส่งเสริมให้เกิดการผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืนในประเทศ

กฟผ.รับรองแล้ว 347 ราย ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ขาย REC สร้างรายได้เพิ่ม

ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ชี้ให้เห็นว่า การร่วมมือกับ บริษัท อินโนพาวเวอร์ ในครั้งนี้ จะเป็นการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์สีเขียวที่ยั่งยืน (Green Ecosystem) ผ่านการผลิตและการใช้พลังงานสะอาดในภาคประชาชน ถือเป็นครั้งแรกที่ประชาชนที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะมีช่องทางการให้บริการที่ง่ายและสะดวกในการขึ้นทะเบียน REC และทำการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียนผ่านบริษัท อินโนพาวเวอร์ จากที่ผ่านมาจะเป็นการขึ้นทะเบียนให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟแล้ว ยังได้ประโยชน์จากการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียนอีกด้วย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยจุดกระแสให้ประชาชนทั่วไปหันมาผลิตและใช้พลังงานสะอาดผ่านการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้สำเร็จ

“ธนาคารได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลในการพัฒนาบริการต่าง ๆ ให้กับโครงการฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ให้บริการยืนยันตัวตนและนำส่งข้อมูลประกอบการขึ้นทะเบียน REC 2) ออกแบบ UX/UI และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสาระสนเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ติดตั้งโซลาร์รูฟสมัครใช้บริการขึ้นทะเบียน REC

3) ให้บริการ Cash Management ซึ่งเป็นการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่เชื่อมต่อระหว่างธนาคาร อินโนพาวเวอร์ และลูกค้าที่ขาย REC ให้มีรูปแบบการชำระเงินที่เหมาะสม ปลอดภัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รายย่อย และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการรับ-จ่ายเงิน”

นายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท เป็นผู้ให้บริการจัดหาและซื้อขายใบรับรอง REC ครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้บริการกับองค์กรขนาดใหญ่ แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยเข้าไปช่วยรวบรวมกำลังการผลิตไฟฟ้าระดับรายบุคคลและองค์กรรายย่อยที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในภาคครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีขนาดกำลังการผลิตไม่ถึง 500 กิโลวัตต์ ซึ่งมีจำนวนมาก และตลาดโซลาร์รูฟท็อปมีอัตราการเติบโตสูงถึงปีละ 26%

บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับธนาคารพัฒนา REC Aggregator Platform ผ่านการรวบรวมและจัดเตรียมข้อมูลการขึ้นทะเบียน REC เพื่อช่วยผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อยสามารถยื่นขอใบรับรอง REC ได้สะดวกขึ้น และอำนวยความสะดวกในการนำ REC ที่ออกและได้รับการรับรองไปจำหน่ายแก่ผู้รับซื้อ นอกจากจะช่วยให้ผู้ผลิตรายย่อยสามารถขาย REC เป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งแล้ว แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยกระตุ้นให้การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในตลาดเติบโตยิ่งขึ้น และยังช่วยให้องค์กรและประเทศบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) อย่างเป็นรูปธรรม