นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมพิธีเปิด โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ หรือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 250 เฮกตาร์ (ราว 1,562 ไร่) ในอ่างเก็บน้ำซีราตา จังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซียเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (9 พ.ย.) โดยเขาประกาศว่า
"วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ เพราะความฝันในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ของเราได้เป็นจริงแล้ว อินโดนีเซียสามารถสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวก่อสร้างโดยบริษัท พาวเวอร์ไชน่า หัวตง เอนจิเนียริง คอร์เปอเรชัน จำกัด (PowerChina Huadong Engineering Corporation) ของจีน โดยเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างพีแอลเอ็น (PLN) บริษัทผลิตไฟฟ้าของรัฐบาลอินโดนีเซีย และมาสดาร์ (Masdar) บริษัทพลังงานหมุนเวียนของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ด้วยเงินลงทุน 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,150 ล้านบาท
โรงไฟฟ้าดังกล่าวประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ครอบคลุมผิวน้ำของอ่างเก็บน้ำซีราตากว่า 340,000 แผง มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงสุด 192 เมกะวัตต์ และสามารถผลิตพลังงาน 300 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งจะช่วยเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้
ประธานาธิบดีวิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย ยังสนับสนุนการใช้ศักยภาพพลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนความพยายามของอินโดนีเซียในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปีค.ศ. 2060 หรือในอีก 37 ปีข้างหน้า
ด้านสื่อท้องถิ่นของอินโดนีเซียรายงานว่า โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำในอ่างเก็บน้ำซีราตาแห่งนี้ จะผลิตกระแสไฟฟ้าตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าของ 50,000 ครัวเรือนในพื้นที่ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 214,000 ตัน
สุลต่านอัล จาเบอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงของยูเออี ซึ่งเป็นประธานบริษัทมาสดาร์ (Masdar) บริษัทพลังงานหมุนเวียนของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) หุ้นส่วนโครงการ เปิดเผยว่า การเปิดใช้โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ลอยน้ำแห่งนี้ เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้บุกเบิกและความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมพลังงานหมุนเวียนของบริษัทมาสดาร์ อีกทั้งยังสะท้อนถึงพลังแห่งการเป็นหุ้นส่วน ความปรารถนาแรงกล้าและความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีวิโดโด รัฐบาลอินโดนีเซีย บริษัทพีแอลเอ็น กรุ๊ป และบริษัทมาสดาร์ ที่จะผลักดันให้โครงการนี้ เป็นโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
"อีกไม่กี่วันก็จะมีการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 (COP28) ที่นครดูไบ ประเทศยูเออี (30 พ.ย.-12 ธ.ค.2566) มันจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมากที่ได้เห็นความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ของโครงการนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการผลิตพลังงานหมุนเวียนให้มากยิ่งขึ้นท่ามกลางบริบทที่ประชาคมโลกกำลังพยายามมองหาแนวทางร่วมกันที่จะรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อันเป็นแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้ผลกับทุกๆภูมิภาคทั่วโลก"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง