วิกฤติน้ำโลก : ปี 2050 คนเมืองจะขาดแคลนน้ำ 2,400 ล้านคน

19 เม.ย. 2566 | 23:00 น.

วิกฤติน้ำโลก : UN ออกมาเตือน อาจคุมไม่อยู่ คาด ปี 2050 ผู้คนในเมืองจะขาดแคลนน้ำ 2,400 ล้านคน หรือ 2 เท่า จาก 930 ล้านคน ในปี 2016

การเปลี่ยนเเปลงสภาพภูมิอากาศหรือ "ภาวะโลกร้อน" เเละการบริโภคที่เพิ่มขึ้น กำลังทำให้โลกตกที่นั่งลำบาก เพราะต้องเผชิญกับ "วิกฤตการณ์น้ำทั่วโลก" ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้  รายงานขององค์การสหประชาชาติออกมาเตือน โดยระบุว่า 

การใช้น้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ต่อปีในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของประชากรและรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนไป ตามรายงานการพัฒนาน้ำโลกของสหประชาชาติ 

รายงานระบุว่าภายในปี 2593 จำนวนผู้คนในเมืองที่ขาดแคลนน้ำจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 930 ล้านคนในปี 2559 เป็น 2.4 พันล้านคน ความต้องการน้ำในเมืองคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 80% ภายในปี 2593 เเละ หากไม่มีการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ จะเกิดวิกฤตการณ์ทั่วโลกอย่างแน่นอน  

ปัจจุบันการเข้าถึงน้ำเป็นปัญหาใหญ่ ประชากร 2 พันล้านคนไม่มีน้ำดื่มสะอาด และ 3.6 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงสุขอนามัยที่มีการจัดการอย่างปลอดภัย โดยประมาณ 10% ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในประเทศที่มีความเครียดจากน้ำสูงหรือวิกฤตอยู่แล้ว 

นอกจากนี้ยังระบุว่า การเติบโตของเมืองและอุตสาหกรรมและการเกษตรกำลังเพิ่มปัญหาการขาดแคลนที่มีอยู่แล้ว การเกษตรเพียงอย่างเดียวใช้น้ำมากถึง 70% ของโลก  รายงานระบุว่า การขาดแคลนน้ำตามฤดูกาลจะเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ เช่น ในแอฟริกากลาง เอเชียตะวันออก และบางส่วนของอเมริกาใต้

ขณะเดียวกัน การขาดแคลนจะเลวร้ายลงในตะวันออกกลางและภูมิภาคซาเฮลในแอฟริกา ส่วนภัยแล้งที่รุนแรงและยืดเยื้อซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงยังสร้างแรงกดดันต่อระบบนิเวศต่อพันธุ์พืชและสัตว์ 

ความน่าสนใจเเละดูเหมือนจะสอดคล้องกับคำเตือนของ UN เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤติน้ำทั่วโลกเนื่องจากการบริโภคที่เปลี่ยนไป หนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษ รายงานว่า สระว่ายน้ำของเมืองที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เกิดวิกฤตการณ์น้ำ พอๆ กับภาวะฉุกเฉินทางสภาพอากาศหรือการเติบโตของประชากร

นักวิจัยได้ใช้เมืองเคปทาวน์ในแอฟริกาใต้เป็นกรณีศึกษา และพบว่าคนที่รวยที่สุดใช้น้ำมากกว่าคนจนที่สุดถึง 50 เท่า เมื่อเกิดวิกฤตการณ์น้ำในเมืองปี 2561 หลังจากภัยแล้งหลายปี คนจนที่สุดก็ถูกทิ้งให้ไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับความต้องการขั้นพื้นฐาน 

นักวิจัยบอกว่า หลายเมืองทั่วโลกมีปัญหาที่คล้ายกัน ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา เมืองใหญ่มากกว่า 80 แห่งประสบปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง รวมถึงไมอามี เมลเบิร์น ลอนดอน บาร์เซโลนา เซาเปาโล ปักกิ่ง เบงกาลูรู และฮาราเร

นักวิจัยกล่าวว่าวิกฤตการณ์น้ำในเมืองคาดว่าจะเกิดบ่อยขึ้น โดยคาดว่าชาวเมืองมากกว่า 1 พันล้านคนจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคตอันใกล้นี้ ในเดือนมีนาคม รายงานของ Global Commission on the Economics of Water สรุปว่า โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตน้ำที่ใกล้เข้ามา โดยคาดว่าอุปสงค์จะแซงหน้าอุปทานถึง 40% ภายในปี 2573

ข้อมูล : cnn ,theguardian ,unesco.org