นายนิทิน ดาร์บารี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีแอนด์จี ประเทศไทย กล่าวว่า จากเป้าหมาย P&G Ambition 2030 สู่เป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Ambition) ในปี 2040 ครอบคลุมถึงการปล่อยมลพิษตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยจะลดพลาสติกปิโตรเลียมบริสุทธิ์ 50%
ในปี 2030 P&G ได้นำระบบ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” มาสร้างรูปแบบธุรกิจและนวัตกรรม ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด เช่น แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่ตั้งเป้าจะใช้พลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อย 4,000 ตันและมี PCR สูงถึง 25% ในขวดแชมพูและครีมนวดผม
ล่าสุด บริษัทฯ ย้งได้จัดทำโครงการ “Upcycling Plastic House 2022 เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม” โดยร่วมมือกับ โลตัส แสนสิริ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC มูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำ Upcycling Plastic House ที่เคยใช้เป็นศูนย์พักคอย สำหรับผู้พิการที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมาต่อยอด สร้างเป็นที่พักอาศัยสำหรับกลุ่มเปราะบาง
พันธมิตรแต่ละรายได้นำความเชี่ยวชาญ และศักยภาพทางธุรกิจร่วมผลักดันโครงการสู่เป้าหมาย ทั้งการรวบรวมขวดพลาสติกและกระป๋อง อลูมิเนียม การ Upcycling วัสดุเหลือใช้สู่วัสดุก่อสร้างบ้านหลังใหม่ ไม่ว่าจะเป็น แผ่นบอร์ด และแผ่นหลังคา (Eco Board and Eco Roof) และไม้เทียม (Wood Plastic Composite) อิฐก่อสร้าง (Eco Bricks) ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ามาตรฐาน มอก.
จากความร่วมมือในโครงการนี้ คาดว่าจะช่วยลดปริมาณพลาสติกใช้แล้วได้กว่า 2,000-4,000 กิโลกรัม ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ กว่า 18,000–36,000 กิโลกรัม คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,834 วันที่ 10 - 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565