การเปลี่ยนผ่านสู่ เศรษฐกิจหมุนเวียน ไม่เพียงแต่เสนอเส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้แก่ โฮจิมินห์ซิตี้เท่านั้น แต่ยังถือเป็นก้าวสำคัญต่อการสร้าง เศรษฐกิจสีเขียว อย่างเต็มรูปแบบ
ท่ามกลางการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ความกดดันด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มสูงขึ้น และผลกระทบที่รุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โฮจิมินห์ซิตี้ กำลังเร่งดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อวางรากฐานสู่การสร้างเศรษฐกิจสีเขียวที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวจำเป็นต้องใช้แนวทางที่ครอบคลุม สอดประสาน และต้องการการปฏิรูประดับนโยบายที่กล้าหาญ
แม้มีการริเริ่มโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนบ้างแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยังเป็นเพียงโครงการกระจายตัวและขนาดเล็ก ไม่เพียงพอต่อการสร้างแรงเปลี่ยนแปลงเพื่อขับเคลื่อนสู่การเปลี่ยนผ่านสีเขียวในวงกว้าง ตัวอย่างเช่น โมเดล 3R (Reduce-Reuse-Recycle) ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2006 และเริ่มใหม่ในปี 2018 ผ่านโครงการนำร่องคัดแยกขยะ ซึ่งช่วยยกระดับการรับรู้ของสาธารณชน
รวมถึงแคมเปญกำจัดการทิ้งขยะตามถนนและคลอง ซึ่งสามารถกำจัดจุดทิ้งขยะที่เป็นปัญหาได้เกือบ 630 จุด โดย 74 จุดได้รับการพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับชุมชน
แม้จะมีความพยายามเหล่านี้ แต่แนวปฏิบัติด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนยังไม่กลายเป็นกระแสหลักหรือก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในวงกว้าง ดร.เหงียน ดูย อั๋ง ด๋ง จากสถาบันวิจัยการเมือง สังคม และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเศรษฐกิจโฮจิมินห์ ระบุว่า การสร้างโมเดลเมืองสีเขียวและยั่งยืนอย่างแท้จริงจำเป็นต้องมีแผนยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ระยะยาว และความร่วมมือใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายเร่งด่วนจากการใช้ทรัพยากรเกินขีดจำกัด มลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการที่เวียดนามกำลังผนวกรวมเข้ากับห่วงโซ่อุปทานโลก เศรษฐกิจหมุนเวียนจึงถูกมองว่า เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการบรรลุการเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความจำเป็นในการสร้างกรอบกฎหมายที่ชัดเจน และการบูรณาการเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อทำให้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมกลายเป็นแรงขับเคลื่อนจริงของโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน
ผู้เชี่ยวชาญยังเน้นย้ำถึง ความสำคัญของการต่อยอดจากภาคส่วนและอุตสาหกรรมที่เมืองได้ดำเนินโมเดลที่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนอยู่แล้ว จากนั้นจึงสามารถปรับแต่งและพัฒนาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับแต่ละภาคส่วน ขยายจากโครงการนำร่องไปสู่การใช้งานในวงกว้าง
เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ จำเป็นต้องออกกลไกกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชนในสาขาเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเฉพาะเทคโนโลยีสะอาด การลดของเสีย การใช้ซ้ำ และการรีไซเคิล ของเสียควรถูกมองว่าเป็นทรัพยากร ทั้งในกระบวนการผลิตและการบริโภค
รศ.ดร.เหงียน ฮ่อง กว๋าน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน มหาวิทยาลัยแห่งชาติโฮจิมินห์ กล่าวว่า นวัตกรรมที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถช่วยสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความท้าทายด้านความยั่งยืนและผลักดันวาระเศรษฐกิจสีเขียวของเมืองให้ก้าวหน้าได้
อ้างอิงข้อมูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง