net-zero

ยุติพลาสติก "วันสิ่งแวดล้อมโลก" ไทยยังวนลูปวงจร "ใช้แล้วทิ้ง"

วันสิ่งเเวดล้อมโลก ‘หมอใหญ่’ ผู้บุกเบิกบรรจุภัณฑ์จากเยื่อพืชไทย สะท้อนความจริง การรีไซเคิลทั่วโลกยังทำได้เพียง 9% ขณะที่ไทยเองยังติดหล่มระบบ “ใช้แล้วทิ้ง”

ก่อนที่จะมองออกไปยังเวทีโลก ถึงแผนระดับนานาชาติในการจัดการมลพิษจากพลาสติกอาจเริ่มต้นจากภาพง่ายๆ ใกล้ตัวจานโฟมหลังอาหารกลางวัน ถุงพลาสติกที่ถือกลับมาจากตลาด หรือช้อนที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง

นี่คือของใช้ที่อยู่บนมือเพียงไม่กี่นาที แต่ทิ้งร่องรอยบนโลกใบนี้ไว้อีกหลายศตวรรษ ในประเทศไทย มีผู้ที่พยายามเปลี่ยนแปลงวิถีเหล่านี้อย่างจริงจัง

หนึ่งในนั้นคือ นพ.วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ หรือที่คนรู้จักในชื่อ “หมอใหญ่” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Gracz ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารจากเยื่อพืชธรรมชาติ 100% ที่ย่อยสลายได้จริงภายในไม่กี่เดือน โดยไม่หลงเหลือร่องรอยเป็นไมโครพลาสติกในสิ่งแวดล้อม

นพ.วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ หรือที่คนรู้จักในชื่อ “หมอใหญ่” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Gracz

หมอใหญ่อธิบายว่า วันนี้โลกสะดวกสบายเกินไป ทุกวันนี้ มนุษย์ทั่วโลกใช้โฟมและพลาสติกเฉลี่ยวันละ 1.8 ชิ้นต่อคน โลกมีประชากร 7 พันล้านคน หมายความว่า ในแต่ละวันมีขยะพลาสติกราว 10,000 ล้านชิ้นถูกทิ้งลงสู่ระบบนิเวศ บางชิ้นอยู่บนโต๊ะอาหารไม่ถึงห้านาที แต่จะใช้เวลาถึง 450 ปีกว่าจะย่อยสลายได้หมด

ตอนนี้คนเราใช้โฟมและพลาสติกเฉลี่ย 1.8 ชิ้นต่อคนต่อวัน โลกมี 7 พันล้านคน เท่ากับเราทิ้งขยะพลาสติกมากกว่าวันละหมื่นล้านชิ้น ขยะพวกนี้อยู่กับเรานิดเดียว แล้วก็กลายเป็นภาระให้โลกไปอีก 450 ปี

ปัญหาคือ พลาสติกเหล่านี้จำนวนมากไม่ถูกจัดการอย่างเหมาะสม รั่วไหลลงสู่ป่าเขา ทะเล หรือแม้แต่ลงไปในกระแสน้ำใต้ดิน แตกตัวกลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ และกลายเป็นไมโครพลาสติกที่สัตว์ทะเลนำเข้าสู่ร่างกาย

พลาสติกเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็ง

หมอใหญ่ อ้างอิงรายงานวิจัยล่าสุดที่พบว่า 33% ของกลุ่มตัวอย่างในคนอเมริกันมีไมโครพลาสติกในอุจจาระ นี่ไม่ใช่เพียงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ หากแต่คือหลักฐานว่า พลาสติก ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากตัวเราอีกต่อไป และอาจเกี่ยวพันกับความเสี่ยงของโรคร้ายแรงอย่าง “มะเร็ง” หรือโรคเรื้อรังอื่น ๆ ซึ่งวันนี้พบผู้ป่วยเหล่านี้ในช่วงอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ

ยุติพลาสติก "วันสิ่งแวดล้อมโลก" ไทยยังวนลูปวงจร "ใช้แล้วทิ้ง"

แม้แบรนด์ทั้งโลกพยายามปรับตัวให้ Eco-friendly โดยเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ หวังให้มีการเก็บกลับไปหมุนเวียนใหม่ แต่สิ่งที่ หมอใหญ่ได้ข้อมูลหลังจากการไปประชุมกับสหประชาชาติพบว่า ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่โลกรณรงค์และทุ่มงบประมาณมหาศาลเรื่องการรีไซเคิล แต่ทั้งโลกเก็บขยะกลับมารีไซเคิลได้เพียง 9%

ยุติพลาสติก "วันสิ่งแวดล้อมโลก" ไทยยังวนลูปวงจร "ใช้แล้วทิ้ง"

หมอใหญ่ย้ำว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เพราะของดีไม่มี แต่เพราะระบบยังไม่พร้อมสนับสนุนให้ของดีให้เติบโตอย่างจริงจัง สิ่งที่อันตรายกว่าพลาสติกทั่วไปคือ “พลาสติกปลอม” หรือการตลาดแบบ “Greenwashing” ที่แสดงตัวว่าย่อยสลายได้ แต่แท้จริงผสมสารอื่นๆ เช่น โคบอลต์ ซึ่งเพียงทำให้พลาสติกแตกตัวเร็วขึ้นเป็นไมโครพลาสติก ไม่ได้ย่อยจริง

ของปลอม เหมือนพระเอกในคราบผู้ร้าย 

วันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2025

ในวันนี้จึงถูกยกให้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนผ่านระดับนานาชาติ ภายใต้ธีม “การยุติมลพิษจากพลาสติก” หรือ #BeatPlasticPollution ที่สหประชาชาติ (UNEP) ผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อหยุดยั้งผลกระทบที่ลุกลามจากท้องทะเลถึงจานอาหารของมนุษย์

ปีนี้เจ้าภาพหลักคือ “เกาหลีใต้” ที่กลับมาจัดงานในฐานะผู้นำด้านการจัดการขยะพลาสติกอีกครั้งในรอบ 28 ปี โดยเลือก เกาะเชจู พื้นที่ต้นแบบของระบบแยกขยะต้นทาง และมีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการปลอดพลาสติกภายในปี 2040 เป็นสถานที่จัดกิจกรรมหลัก ซึ่งจะมีผู้แทนจากกว่า 150 ประเทศ นักสิ่งแวดล้อมระดับโลก และองค์กรนานาชาติ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

การจัดงานในปีนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเกิดขึ้นเพียง 2 เดือนก่อนที่ผู้นำโลกจะกลับมารวมตัวกันที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเจรจา สนธิสัญญาพลาสติกระดับโลก (Global Plastics Treaty) ที่มีเป้าหมายเพื่อควบคุมการผลิต ใช้งาน และกำจัดพลาสติกอย่างครอบคลุมทั้งวงจรชีวิต

ข้อมูลจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติระบุว่า กว่า 31.9% ของพลาสติกที่ผลิตทั่วโลกยังถูกจัดการอย่างไม่เหมาะสม และคาดว่าในปี 2025 จะมีขยะพลาสติกมากกว่า 72 ล้านตัน รั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อม ทั้งในดิน น้ำ และอากาศ ส่งผลโดยตรงต่อทั้งระบบนิเวศและสุขภาพของประชาชน

ยุติพลาสติก "วันสิ่งแวดล้อมโลก" ไทยยังวนลูปวงจร "ใช้แล้วทิ้ง"

สำหรับประเทศไทย แม้ยังมีความท้าทายหลายด้าน แต่เริ่มขยับเชิงนโยบายอย่างชัดเจนมากขึ้น ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศห้ามนำเข้าเศษพลาสติก มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถือเป็นก้าวสำคัญในการยุติบทบาท “ปลายทางของขยะโลก” หลังจากที่ไทยเคยกลายเป็นจุดรับขยะจากยุโรปและญี่ปุ่นภายหลังปี 2561

กระทรวงทรัพย์ฯ กรมลดโลกร้อน พยายามรณรงค์เรื่องนี้มาก สนับสนุนเต็มที่ พยายามผลักดันให้เกิดเป็นนโยบาย การแก้ปัญหาเรื่องการจัดอีเว้นต์ต้องประกาศเป็นนโยบายว่า ต้องไม่มีพลาสติก ถ้าประกาศจะทำให้กระบวนการขับเคลื่อนได้ง่าย ภาครัฐยังไม่จริงจัง ทั้งที่ต่างประเทศ ยุโรป  นโยบายต้องเข้มแข็ง รัฐต้องผลักดันให้ประชาชนทราบว่าการที่เราปล่อยให้ใช้พลาสติกทำให้ภาครัฐต้องจ่ายเงินไปรักษามะเร็งเยอะมาก