environment

งบอากาศสะอาดกระจุกตัว ประเทศมลพิษสูงได้งบต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว

In Brief

  • ประเทศที่มีมลพิษ PM2.5 รุนแรงหลายแห่งได้รับงบประมาณด้านอากาศสะอาดน้อยกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
  • ภูมิภาคแอฟริกาซึ่งมีปัญหามลพิษสูง ได้รับเงินทุนสนับสนุนโครงการอากาศสะอาดน้อยกว่า 1% ของเงินทุนทั้งหมด
  • บางประเทศที่มีมลพิษสูง เช่น บังกลาเทศ กลับได้รับเงินสนับสนุนโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลมากกว่างบประมาณสำหรับแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ

รายงาน The State of Global Air Quality Funding 2025 สะท้อนภาพ “ความไม่สมดุลของเงินทุน” ในการแก้ปัญหามลพิษอากาศทั่วโลกอย่างชัดเจน โดยชี้ว่าหลายประเทศที่เผชิญระดับ PM2.5 สูงกลับได้รับงบสนับสนุนด้านคุณภาพอากาศต่ำมาก ขณะที่บางประเทศที่มลพิษรุนแรงยังได้รับเม็ดเงินสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับฟอสซิลมากกว่างบแก้ปัญหามลพิษ

ข้อมูลในส่วน Recipient Analysis รายงานว่า ประเทศที่มีค่า PM2.5 สูงที่สุดของโลกจำนวนมากได้รับเงินสนับสนุนด้านอากาศสะอาด “ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัวประชากร” แม้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพสูงที่สุด สะท้อนช่องว่างในการจัดสรรเงินทุนที่ยังไม่สอดคล้องกับความจำเป็นเร่งด่วนของประชาชนในประเทศเหล่านั้น
 

ข้อมูลจาก Recipient Region Summary ระบุว่า นอกจากนี้ ในระดับภูมิภาค แอฟริกาได้รับเงินสนับสนุนโครงการอากาศสะอาด “น้อยกว่า 1% ของทั้งหมด” แม้จะเป็นภูมิภาคที่มีปัญหามลพิษสูงและมีเมืองใหญ่หลายแห่งที่เผชิญ PM2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่องหลายปี

ความไม่สมดุลด้านเงินทุนยังสะท้อนผ่านกรณีของประเทศที่ได้รับเงินสนับสนุนโครงการฟอสซิลมากกว่าการแก้ปัญหามลพิษโดยตรง โดยรายงานยกตัวอย่าง บังกลาเทศ ซึ่งในปี 2023 เป็นประเทศที่ได้รับเงินสนับสนุนโครงการ fossil fuel-prolonging สูงที่สุด และได้รับงบฟอสซิล “มากกว่างบคุณภาพอากาศรวม” ทั้งที่ประเทศนี้มีค่า PM2.5 เฉลี่ยสูงที่สุดในโลกในปี 2022

ตามข้อมูลใน Section 2.5 ที่ระบุว่าโครงการฟอสซิลขนาดใหญ่ เช่น Matarbari Ultra Super Critical Coal-Fired Power Project คิดเป็น 56% ของงบฟอสซิลทั้งหมดที่บังกลาเทศได้รับในปีนั้น

รายงานระบุว่า ความเหลื่อมล้ำของเงินทุนในลักษณะนี้อาจทำให้การลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากมลพิษอากาศเป็นไปได้ช้ากว่าที่ควร และยังสะท้อนว่าระบบทุนพัฒนาระหว่างประเทศยังคงจัดสรรเงินให้กิจกรรมที่ก่อมลพิษในสัดส่วนที่สูงกว่าการลงทุนเพื่อปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน