โลกร้อนกระทบไร่ชาญี่ปุ่น ผลผลิตวูบ ‘มัตสึดะ’ลั่นพร้อมเสิร์ฟมัทฉะพรีเมียมร้านอินทนิล

กลุ่มบริษัทบางจากได้นำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการเยี่ยมชมไร่ชาของ บริษัท ยามามะ มัตสึดะ เอ็น จำกัด (Yamama Masudaen Co., Ltd.) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของบริษัทผู้ผลิตชารายใหญ่สุดของญี่ปุ่น

นายสึโยมิ มัตสึดะ (Mr. Tsuyomi Masuda) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริษัท ยามามะ มัตสึดะ เอ็น จำกัด เผยว่า ยามามะ มัตสึดะ เอ็น เป็นบริษัทชาที่ดำเนินการทุกอย่างตั้งแต่การปลูกในไร่ ไปจนถึงการผลิต และการบรรจุหีบห่อ จัดจำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออก

มัตสึดะ เอ็น ถือเป็น 1 ใน 3 ฟาร์มชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่จังหวัดชิซุโอกะ มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี หรือประมาณ 5 อายุคน และยังคงมุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุดที่ไม่แพ้ใคร

ที่ผ่านมา ไร่ชาของบริษัทได้รับรางวัลพระจักรพรรดิ (The Emperor's Cup) ในปี 2015 ซึ่งถือเป็นเกียรติอันสูงสุด ในครั้งนั้นเป็นการมอบรางวัลครั้งที่ 54 และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเพียง 5 คนเท่านั้นในวงการชาที่เคยได้รับรางวัลนี้ โดยได้รับรางวัลโดยตรงจากองค์จักรพรรดิที่โตเกียว นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอีกหลายรายการ

บริษัทฯ เริ่มส่งออกชาในปี 1991 ปัจจุบันได้ส่งออกชาไปยังกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย (ผลิตวัตถุดิบป้อนให้กับ บริษัท บางจาก รีเทล ในเครือบางจากคอร์ปอเรชั่น เพื่อจำหน่ายในร้านกาแฟอินทนิลทั่วประเทศ) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่บริษัทมีความสัมพันธ์ด้านการส่งออกเริ่มช่วงต้นปีที่ผ่านมาและบริษัทให้ความสำคัญมาก

“เรารู้สึกขอบคุณมากที่ร้านกาแฟอินทนิลของบางจากฯ ได้นำมัทฉะของพวกเราไปทำเป็นสินค้าจำหน่ายให้กับคนไทย เป้าหมายสำคัญที่สุดคือการช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นด้านชา โดยเฉพาะมัทฉะให้ทุกคนได้รู้จัก

ทั้งนี้ชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่าดีต่อสุขภาพมาก บริษัทต้องการให้ทุกคน โดยเฉพาะคนไทย ได้ดื่มชาและมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราต้องการที่จะทำการผลิตชาที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง”

ในเบื้องต้นนี้ทางมัตสึดะฯ จะส่งชาเกรดพรีเมียมให้กับร้านอินทนิล 5 ตันต่อปี ซึ่งคำสั่งซื้อได้เกิดขึ้นในช่วงกลางปีที่ผ่านมา จึงสามารถเตรียมไว้ได้ในปริมาณดังกล่าว ซึ่งในอนาคตจะส่งวัตถุดิบให้ได้เพิ่มขึ้นหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อผลผลิตอย่างมาก ซึ่งในปีนี้สภาพอากาศในญี่ปุ่นค่อนข้างร้อนมาก ทำให้การปลูกไร่ชาค่อนข้างลำบาก หากการเก็บเกี่ยวครั้งแรก (First Harvest) ในปีหน้า ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เป็นไปได้ด้วยดี ก็มีโอกาสที่ปริมาณชาพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นจาก 5 ตัน เป็น 7 ตัน หรือแม้แต่ 10 ตันต่อปีได้

ปัจจุบันมัตสึดะฯ มีผลผลิตชาที่หลากหลายชนิดรวมกันมากกว่า 100 ตันต่อปี อย่างไรก็ตาม ปริมาณ 5 ตันที่ส่งให้กับบางจากฯนี้ คือชาที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีที่สุด ซึ่งถึงแม้ว่าทางบริษัทฯ จะสามารถส่งชาเกรดที่ราคาถูกลงไปต่างประเทศในปริมาณ 10 ตัน หรือ 20 ตันได้ แต่เนื่องจากความต้องการของร้านกาแฟอินทนิล คือชาเกรดพรีเมียม (ที่คุณภาพสูงที่สุด) ปริมาณจึงถูกจำกัดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“อย่างไรก็ดี เนื่องจากชาเป็นผลผลิตทางการเกษตร จึงมีหลายเกรด ตั้งแต่ราคาถูกมากไปจนถึงดีเยี่ยม มัตสึดะฯ มีภารกิจที่จะต้องคัดเลือกเฉพาะชาที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพื่อมอบให้กับร้านกาแฟอินทนิล” นายมัตสึดะ กล่าว