KEY
POINTS
ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุ ตลาดกาแฟไทยในปี 2568 จะมีมูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท และหากรวมธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจะมีมูลค่ากว่า 657,000 ล้านบาท ส่งผลให้ค่ายธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของไทยต่างลงสนามเพื่อแย่งชิงตลาด Non-Oil นี้กันอย่างพร้อมหน้า
นางสาวณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในกลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รุกต่อยอดธุรกิจ Non-Oil ตามกลยุทธ์ “Bangchak 100x” ของกลุ่มบางจาก ที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2571
ในส่วนของร้านกาแฟอินทนิล จะรุกตลาดต่อเนื่องในการขยายสาขาจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน1,280 สาขา สิ้นปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,300 สาขา ปี 2569 เพิ่มเป็น 1,500 สาขา และในปี 2571 เพิ่มเป็น 1,800 สาขา ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายจากปัจจุบันที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 50% ของธุรกิจ Non-Oil ของบางจาก) เป็น 6,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปี ทั้งนี้จะขยายสาขาทั้งในและนอกสถานีบริการนํ้ามันของบางจากทั่วประเทศ ในจำนวนดังกล่าวจะเป็นร้าน ของแฟรนไชส์ 70% และอีก 30% บริษัทลงทุนเอง เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
“เราตั้งเป้าจำนวนยอดขาย (กาแฟ ชามัทฉะ ชานม ชาผสม โกโก้ เครื่องดื่มนม เครื่องดื่มผลไม้ และเครื่องดื่มอื่นๆ) ในร้านอินทนิลไว้ที่ 200 แก้วต่อวันต่อสาขา จากปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ย 90 แก้วต่อสาขาต่อวัน และในภาพรวมมียอดขายประมาณ 30 ล้านแก้วต่อปี ในส่วนของชามัทฉะเกรดพรีเมียมที่นำเข้าวัตถุดิบจากญี่ปุ่นขายราคาเริ่มต้นที่ 70-90 บาทต่อแก้ว มองว่าเป็นราคาที่ไม่แพงและแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับคุณภาพของสินค้า”
นางสาวณิภาภรณ์ กล่าวอีกว่า ในการทำตลาดของอินทนิล จะเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเจาะตลาดกลุ่ม Gen Z และการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ และนำเสนอสินค้าคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ขณะที่พฤติกรรมการดื่มของลูกค้า ปัจจุบันมัทฉะเป็นเทรนด์เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่อินทนิลเริ่มจำหน่าย และทำตลาดชามัทฉะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และมียอดขายที่เติบโตดีมาก
ด้านวัตถุดิบชามัทฉะ บริษัทมีการนำเข้าจากไร่ของบริษัท ยามามะ มัตสึดะเอ็น จำกัด (Yamama Masudaen) ซึ่งเป็นไร่ชาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี และเป็นไร่ชาได้รับรางวัลพระจักรพรรดิ เป็น 1 ใน 3 ฟาร์มชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยบางจาก รีเทลฯได้นำเข้ามัทฉะเกรดพรีเมียมจากยามามะ มัตสึดะเอ็น นำไปชงเสิร์ฟในร้านอินทนิลคอฟฟี่ และเป็นเมนูที่กำลังได้รับความนิยม
นายสึโยมิ มัตสึดะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยามามะ มัตสึดะเอ็น จำกัด ทายาทรุ่นที่ 5 เผยว่า ชาของบริษัทเป็นชาคุณภาพสูง โดยเริ่มมีการส่งออกตั้งแต่ปี 1991 ปัจจุบันส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ในส่วนของประเทศไทยผลิตและป้อนให้กับร้านกาแฟอินทนิล ของบางจากฯ ในเบื้องต้นจะส่งวัตถุดิบเกรดพรีเมียมให้ 5 ตันต่อปี (คำสั่งซื้อเกิดขึ้นในช่วงกลางปีที่ผ่านมา) ทั้งนี้จะสามารถเพิ่มจาก 5 ตันเป็น 7 ตันหรือ 10 ตันต่อปีได้หรือไม่นั้นขึ้นกับสภาพภูมิอากาศในแต่ละปี ซึ่งยอมรับว่าจากโลกร้อนขึ้น ทำให้มีผลผลิตที่ลดลง
“ชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ว่าดีต่อสุขภาพมาก บริษัทต้องการให้ทุกคน โดยเฉพาะคนไทยได้ดื่มชาและมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเป็นเหตุผลว่าเราต้องการที่จะผลิตชาที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง”นายสึโยมิ มัตสึดะ กล่าว