environment

ราคาช็อกโกแลตพุ่งจากโลกร้อน Hershey เตรียมขึ้นราคาขนมครั้งใหญ่

Hershey ประกาศขึ้นราคาช็อกโกแลต หลังต้นทุนโกโก้สูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะผลผลิตตกต่ำจากคลื่นความร้อนในกานา–ไอวอรีโคสต์ นักวิจัยย้ำโลกร้อนทำห่วงโซ่อาหารโลกสั่นคลอน

ช็อกโกแลตแท่งคิทแคท (Kit Kat) และ รีสส์ พีนัทบัตเตอร์คัพส์ (Reese’s Peanut Butter Cups) กำลังจะมีราคาสูงขึ้นอย่างเป็นทางการ

เฮอร์ชีย์ (Hershey) แจ้งพันธมิตรค้าปลีกว่าบริษัทกำลังปรับขึ้นราคาสินค้าช็อกโกแลตในอัตรา “เลขสองหลัก” เมื่อเทียบกับราคาที่จำหน่ายในช่วงสองปีที่ผ่านมา โฆษกของบริษัทยืนยันเรื่องนี้กับ CNN โดยสาเหตุหลักมาจากราคาของโกโก้ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่ง Bloomberg เป็นสื่อแรกที่รายงานข่าวดังกล่าว

ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโกโก้ปรับตัวขึ้นถึง 178% ในปี 2024 หลังจากที่ปรับขึ้นไปแล้ว 61% ในปี 2023 เนื่องจากประเทศกานาและไอวอรีโคสต์ซึ่งร่วมกันผลิตโกโก้เกือบ 60% ของโลก กำลังเผชิญกับผลผลิตตกต่ำจากสภาพอากาศที่เลวร้าย เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ตัวอย่างเช่น งานวิจัยที่นำโดย แม็กซิมิเลียน คอทซ์ (Maximillian Kotz) จากศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์บาร์เซโลนา พบว่า คลื่นความร้อนช่วงต้นปี 2024 ในภูมิภาคดังกล่าว รุนแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 4 องศาเซลเซียสเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้ราคาของโกโก้ในเดือนเมษายนพุ่งขึ้น 280%

ขณะนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโกโก้ซื้อขายอยู่ที่ 8,156 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเมตริก แม้ว่าจะต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12,646 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเมตริกในเดือนธันวาคม 2024 อยู่ 30% แต่ก็ยังสูงกว่าระดับเมื่อสองปีก่อนอย่างมาก

เฮอร์ชีย์ ระบุในแถลงการณ์ว่า การปรับขึ้นราคาครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีหรือมาตรการทางการค้าแต่อย่างใด โดยในการประชุมแถลงผลประกอบการเดือนพฤษภาคม เฮอร์ชีย์คาดว่าจะมีต้นทุนจากภาษีนำเข้าประมาณ 15 ล้าน-20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่สองของปี

การขึ้นราคาครั้งนี้สะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาของโกโก้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราพยายามดูดซับต้นทุนเหล่านี้ไว้ และยังคงจำหน่ายสินค้าถึง 75% ของพอร์ตโฟลิโอในราคาต่ำกว่า 4.00 ดอลลาร์

ในการแถลงผลประกอบการเดือนพฤษภาคม เฮอร์ชีย์ยังระบุว่าจะปรับโครงสร้าง “price pack architecture” หรือพูดง่าย ๆ ว่าจะลดขนาดสินค้าลง ซึ่งรู้จักกันทั่วไปว่า “shrinkflation” โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาราคาขาย

มิเชล บัค (Michele Buck) ซีอีโอของเฮอร์ชีย์ กล่าวในการแถลงผลประกอบการว่า ข้อดีของแนวทางนี้คือ ไม่ใช่การขึ้นราคาตรง ๆ แต่เป็นการปรับขนาดและราคาไปพร้อมกัน ซึ่งอาจช่วยสร้างการรับรู้ถึงความคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคได้ดีกว่า

ผู้ผลิตช็อกโกแลตจากสวิตเซอร์แลนด์อย่างลินด์ (Lindt) ก็ระบุในปี 2024 ว่าได้ปรับขึ้นราคาสินค้าแล้ว และคาดว่าจะปรับขึ้นต่อไปในปี 2025 เนื่องจากเผชิญกับปีที่ท้าทายจากต้นทุนโกโก้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ราคาสินค้าที่ต้องปรับเพิ่ม และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง