energy

ส่อง Pool Manager บริหารจัดการก๊าซ สร้างความเป็นธรรมค่าไฟฟ้า

ปัญหาค่าไฟฟ้าแพงปัจจัยหนึ่งมาจากราคาพลังงานโลกที่มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่นำเข้ามาเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า

แนวทางแก้ปัญหาที่ผ่านมารัฐบาล จึงได้เปิดเสรีให้มีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรม และการบริหารจัดการราคาเชื้อเพลิงที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ค่าไฟสูงขึ้น โดยรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 ค่าไฟฟ้ายังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วย

ขณะเดียวกันได้มีการจัดตั้งผู้บริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ หรือ Pool Manager โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2566 เพื่อมากำกับดูแลราคาและการจัดทำสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติในกลุ่มที่นำเข้าก๊าซฯ เพื่อผลิตไฟฟ้าเข้าระบบที่มีการกำกับราคา หรือ Regulated Market ให้มีความโปร่งใส และสอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติระยะที่ 2 ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 โดยได้วางกลไกเข้าไปดูแลด้านราคา ความมั่นคง การแข่งขัน และคุ้มครองผู้บริโภค

ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการจัดหาก๊าซธรรมชาติมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าประมาณ 4,664 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แบ่งเป็นก๊าซฯ ที่ผลิตได้ในประเทศ ประมาณ 2,653 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และก๊าซที่นำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 2,010 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยแหล่งก๊าซที่สำคัญมาจากอ่าวไทย, พื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA),นำเข้าจากประเทศเมียนมา และนำเข้าก๊าซ LNG ตามโครงสร้างก๊าซธรรมชาติเดิมกำหนดให้ผู้นำเข้าก๊าซฯLNG สามารถนำไปป้อนโรงไฟฟ้าได้เลย

ส่อง Pool Manager บริหารจัดการก๊าซ สร้างความเป็นธรรมค่าไฟฟ้า

ทั้งนี้ หลังจากมี Pool Manager รองรับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติที่ให้ผู้นำเข้า LNG หรือ Shipper ทั้งรายเก่าและรายใหม่ จะต้องนำ LNG ที่จัดหามาได้เข้ามาใน Pool Gas ผ่านการบริหารจัดการของ Pool Manager เพื่อกำกับดูแลด้านราคาที่เหมาะสมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันได้กำหนดราคา Pool Gas อยู่ที่ 333 บาทต่อล้านบีทียู

นอกจากนี้ข้อดีของ Pool Manager คือทำหน้าที่ในการควบคุมคุณภาพก๊าซก่อนส่งป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า โดยเนื้อก๊าซที่มีคุณภาพจะมีความร้อนอยู่ระหว่าง 1,280-1,320 บีทียูต่อล้านลูกบาศก์ฟุต แต่ก๊าซที่มาจากเมียนมาจะมีความร้อนตํ่าสุดอยู่ที่ 1,000 บีทียูต่อล้านลูกบาศก์ฟุต ก๊าซจากอ่าวไทยจะมีความร้อนสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1,200-1,300 บีทียูต่อล้านลูกบาศก์ฟุต ส่วนก๊าซ LNG ที่นำเข้ามาจะมีความร้อนมากที่สุดอยู่ที่ 1,300-1,400 บีทียูต่อล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งคุณภาพของก๊าซที่มาจากแต่ละแหล่งมีความแตกต่างกันจึงต้องส่งเข้า Pool Gas เพื่อปรับคุณภาพก่อน เพราะก๊าซที่มีความร้อนสูงเกินไปจะสร้างความเสียหายกับอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าได้

ในอนาคตก๊าซในอ่าวไทยและที่นำเข้าจากเมียนมาจะลดลง ไม่เพียงพอที่จะส่งป้อนโรงไฟฟ้า จึงต้องนำเข้าก๊าซ LNG เพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2580 จะมีสัดส่วนนำเข้าก๊าซฯจากเมียนมาเหลือแค่ 4% ก๊าซจากอ่าวไทย เหลือ 28% ส่วนก๊าซ LNG จะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 68% ทาง กกพ. จะเข้าไปมีบทบาทในการเตรียมแผนวันเปลี่ยนแปลงคุณภาพก๊าซ หรือ Changeover day: C-day เพื่อสั่งให้จูนอุปกรณ์โรงไฟฟ้าให้มีความพร้อมรองรับความร้อนจากก๊าซฯ LNG ที่อยู่ระดับ 1,300-1,400 บีทียูต่อล้านลูกบาศก์ฟุต เพื่อไม่ให้ธุรกิจปลายนํ้าได้รับผลกระทบนั่นเอง

การดูแลด้านความมั่นคงทางพลังงานเป็นหน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ Pool Manager ที่จะเข้าไปกำกับดูแลในการบริหารจัดการก๊าซให้เพียงพอ โดยมีก๊าซ จากเมียนมาส่งป้อนให้กับโรงไฟฟ้าราชบุรี และโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ได้ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสามารถรองรับก๊าซทั้งจากฝั่งตะวันออก (อ่าวไทย) และฝั่งตะวันตก (เมียนมา) เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าด้วย

นอกจากนี้ Pool Manager ยังมีหน้าที่ในการเปรียบเทียบแผนจัดหาก๊าซ และประมาณการความต้องการใช้ก๊าซ หากมีส่วนที่เกินจากแผน จะต้องจัดทำแผนและบริหารการจัดหาก๊าซให้มีเพียงพอต่อความต้องการใช้ก๊าซด้วย

กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน Pool Manager สามารถเรียกก๊าซ เพื่อเสริมความมั่นคงได้ โดยสามารถสั่งก๊าซล่วงหน้าได้ด้วยการปฏิบัติการของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่มี Operation Center หรือ OC ทำหน้าที่เรียกก๊าซจากแหล่งเมียนมาใช้เวลาก๊าซเดินทางมาเพียง 1 วัน ก๊าซจากอ่าวไทยใช้เวลาเพียงครึ่งวัน ส่วนก๊าซ LNG ที่คลังมาบตาพุดนั้นสามารถส่งเข้าท่อได้ทันทีเลย

อย่างไรก็ตาม คุณภาพของก๊าซที่ส่งเข้าท่อจะต้องได้มาตรฐาน หรือมีสัดส่วนของก๊าซเย็น หรือก๊าซร้อนที่โรงไฟฟ้ารับได้ แต่ถ้าไม่ได้ตามมาตรฐานทางโรงไฟฟ้าก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธรับก๊าซตามสัญญาได้เช่นกัน

สุดท้ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้นำเข้าก๊าซฯ กกพ. ได้กำหนดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าและค่าบริการใช้ถังเก็บ LNG และอัตราค่าผ่านท่อเพื่อนำส่งก๊าซ โดยมีการวางระเบียบการนำเข้า LNG และการใช้ท่อส่งก๊าซ ต้องแจ้งล่วงหน้า และในอนาคตหากเกิดกรณีนำเข้าก๊าซฯ LNG มาฝากที่ถังเก็บมากจนไม่สามารถรองรับได้ อาจจะมีการบริหารจัดการที่เรียกว่า “แลกก๊าซ” เกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นความท้าทายในการวางกลไกลาดให้เกิดการแข่งขันตามมา