"เอ็กโก-ไปรษณีย์ไทย-บีไอจี"รุกใช้ไฮโดรเจนภาคโลจิสติกส์ มุ่งเป้า Net Zero

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป (EGCO Group) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบีไอจี

ทั้งนี้ เพื่อศึกษาการใช้พลังงานไฮโดรเจนในการพัฒนาและให้บริการด้านโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทย มุ่งยกระดับการบริหารจัดการพลังงาน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งพัสดุและสินค้าทางไปรษณีย์อย่างยั่งยืน และมุ่งหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของประเทศ ในปี พ.ศ. 2608

โดย EGCO Group จะร่วมสนับสนุนข้อมูลในการพัฒนาและแสวงหาโอกาสในการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมไฮโดรเจนด้านอื่น ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่ง เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฮโดรเจนเพื่อนำมาใช้ในภาคโลจิสติกส์

ส่วนบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะรับผิดชอบการจัดหาเส้นทางการทดสอบการใช้พลังงานไฮโดรเจนในการขนส่งและโลจิสติกส์ทางภาคพื้นดินภายในประเทศและสร้างโอกาสขยายไปยังต่างประเทศในอนาคต 

ขณะที่ บีไอจี รับผิดชอบในการสนับสนุนการจัดหารถขนส่งและการเติมไฮโดรเจน รวมทั้งนวัตกรรมการใช้พลังงานไฮโดรเจนเพื่อยานยนต์ 

นายเทพรัตน์ กล่าวอีกว่า EGCO Group ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ด้วยทิศทาง Cleaner, Smarter, and Stronger to Drive Sustainable Growth เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593 โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้ไฮโดรเจน ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกที่สำคัญและมีศักยภาพรองรับการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสีเขียว (Green Energy) โดยการร่วมมือกับพันธมิตรศึกษาเทคโนโลยีและแสวงหาโอกาสลงทุนในห่วงโซ่อุปทานของไฮโดรเจน ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการประยุกต์ใช้งาน 

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นก้าวสำคัญของการนำพลังงานไฮโดรเจนมาใช้ในภาคโลจิสติกส์ของประเทศไทย และขับเคลื่อนไปรษณีย์ไทย  สู่เป้าหมาย Net Zero ตามนโยบายของภาครัฐ

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวว่า บีไอจีตระหนักถึงการใช้พลังงานสะอาดเพื่อ ร่วมผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ในประเทศไทยด้วยการชูนวัตกรรมจากไฮโดรเจนซึ่งเป็นหนึ่งใน Climate Technology มาใช้ในภาคยานยนต์ เพื่อเป็นแรงสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่ง โดยที่บีไอจีมีการลงทุนเกี่ยวกับนวัตกรรมไฮโดรเจนอย่างต่อเนื่อง