CEO IRPC พลิกประวัติ “กฤษณ์ อิ่มแสง” คุมขุมทรัพย์แสนล้าน

27 ก.ย. 2565 | 09:43 น.

CEO IRPC พลิกประวัติ “กฤษณ์ อิ่มแสง” คุมขุมทรัพย์แสนล้าน เริ่มลุยงาน 1 ต.ค. แทนที่ ชวลิต ทิพพาวนิช ที่แจ้งลาออกเนื่องจากเกษียณอายุ

CEO IRPC  ได้ผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งใหม่เรียบร้อย โดยปรากฏเป็นชื่อของ “กฤษณ์ อิ่มแสง” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) คนที่ 7 ควบตำแหน่งเป็น กรรมการ และเลขานุการคณะกรรมการ

 

ทั้งนี้ คำสั่งแต่งตั้ง กฤษณ์ อิ่มแสง เป็น CEO คนใหม่ป้ายแดง จากคณะกรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป เพื่อทดแทนนายชวลิต ทิพพาวนิช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนเดิม ที่ได้แจ้งการลาออกเนื่องจากเกษียณอายุ


ปัจจุบัน "กฤษณ์ อิ่มแสง" มีอายุ 57 ปี โดยมีประวัติการทำงาน  มีประสบการณ์และผ่านภารกิจในการกำกับดูแล และกำหนดทิศทางให้กับกลุ่มธุรกิจที่สำคัญของ ปตท. และบริษัทในกลุ่มปตท. ประกอบด้วย                                        

 

  • ประธานกรรมการ/ ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน / กรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี  บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
  • ประธานกรรมการ บริษัท พีทีทีแทงค์ เทอร์มินัล จำกัด
  • ประธานกรรมการ บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
  • กรรมการ/ กรรมการสรรหา และกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)    
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กำกับดูแลองค์กรและกิจการสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารองค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)    
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
  • กรรมการบริหาร โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS)

 

ประวัติการศึกษา 

 

  • กฤษณ์ จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

 

ด้านผลการดำเนินงานของ IRPC นั้น ในไตรมาส 2/65 มีรายได้จากการขายสุทธิ 99,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,787 ล้านบาท หรือ 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 26% ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และปริมาณขายเพิ่มขึ้น 4%

 

โดยมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 12,562 ล้านบาท (20.15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้น 8,457 ล้านบาท หรือ 206% มีสาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

 
ขณะที่ต้นทุนราคาน้ำมันดิบ (Crude Premium) ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM)  จำนวน 11,264 ล้านบาท หรือ 18.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 14% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 มีกำไรสุทธิ 3,833 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565

 

ส่วนผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกของปี 2565 IRPC มีรายได้จากการขายสุทธิจำนวน 176,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 65% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และปริมาณขายเพิ่มขึ้น 2% 

 

โดย มี Market GIM อยู่ที่ 16,667 ล้านบาท (13.85 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้น 6% เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทั้งน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ต้นทุน ราคาน้ำมันดิบ (Crude Premium) ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมี Accounting GIM จำนวน 21,155 ล้านบาท หรือ 17.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 3,046 ล้านบาท หรือลดลง 5.14 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 5,334 ล้านบาท ลดลง 47% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

 

ล่าสุดราคาหุ้น IRPC วันนี้ (27 ก.ย. 65) ปิดตลาดราคา 3.18 บาท