In Brief
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม ส.อ.ท. ได้ดำเนินการยกระดับต่อยอดการผลักดันประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมของภูมิภาค
โดยดำเนินการผ่านงานแสดงสินค้าด้านสิ่งแวดล้อมและจัดการของเสียสู่ระดับภูมิภาค Asia EnwastExpo 2026 (Asia Environmental and Waste Management 2026 - Asia EnwastExpo 2026) ผ่านวิสัยทัศน์ Empowering Asia’s Green Future – ขับเคลื่อนเอเชีย สู่เศรษฐกิจสีเขียว
ทั้งนี้ ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนผ่านด้านสิ่งแวดล้อม (Green Transition) อย่างเต็มรูปแบบ ภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกให้ความสำคัญกับ การเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) โดยมีเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นแกนกลาง
ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาเซียน จึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโตอย่างสมดุล ทั้งนี้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในเวทีโลก ต้องใช้แนวทาง One FTI – Strength Together ประกอบด้วย 4 มิติสำคัญ ประกอดบด้วย
“งานดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ของการก้าวสู่ระดับภูมิภาคที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมแห่งเอเชีย โดยเชื่อว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวต้องอาศัยพลังของเครือข่าย (Network Power) และความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน เมื่อรวมพลังเป็น One FTI จะสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยและเอเชียสู่เป้าหมาย Net Zero ได้อย่างมั่นคง”
นายธนาธร ตรงสิทธิวิทู ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม ส.อ.ท. กล่าวว่า งาน Asia EnwastExpo 2026 เป็นเวทีระดับภูมิภาค สำหรับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมในทุกมิติ ตั้งแต่พลังงานหมุนเวียน พลังงานสำหรับภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสีเขียว ระบบจัดการของเสียครบวงจร ไปจนถึงแนวทางการปรับตัวของอุตสาหกรรมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
งานดังกล่าวจะมีองค์กรชั้นนำจากทั้งในและต่างประเทศกว่า 200 ราย เข้าร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมทั้งภาคอุตสาหกรรม พลังงาน ชุมชน และภาคบริการ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 8,000 คน บนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 200 บริษัท
นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวโปรแกรมจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อ กิจกรรมประชุม สัมมนาเชิงวิชาการโซน Start-up ผลิตภัณฑ์ทางด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับจำหน่าย
อีกทั้งยังมีบริการและนวัตกรรมอื่นที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจ ได้แก่ ที่ปรึกษาด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) ,Smart Grid และ IoT ,ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพสิ่งแวดล้อม ,โซลูชันพลังงานสำหรับภาคอุตสาหกรรม และระบบการจัดการพลังงานในโรงงาน เป็นต้น โดยงานดังกล่าวจะจัดวันที่ 4-6 ก.พ. 69 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง