sustainable

เวิลด์แบงก์ชี้ไทยเสี่ยงหนักภัยภูมิอากาศ แนะเร่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

In Brief

  • ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ชี้ว่าไทยมีความเสี่ยงสูงจากภัยพิบัติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง และคลื่นความร้อน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน
  • เวิลด์แบงก์เสนอให้ไทยเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยเน้นการปรับโครงสร้างพลังงานไปสู่พลังงานหมุนเวียน สนับสนุนเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ และเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือภัยพิบัติ
  • รายงานระบุว่าการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว เช่น การลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานสะอาด ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ธนาคารโลก (World Bank) เผยรายงาน Thailand Country Climate and Development Report (CCDR) ฉบับล่าสุด (เมษายน 2568) ชี้ว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติและแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ที่หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและลดคาร์บอน

รายงานระบุว่า แม้ไทยเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในเอเชีย แต่ในช่วงหลังการเติบโตเริ่มชะลอตัวจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคเกษตรและอุตสาหกรรมดั้งเดิม

เวิลด์แบงก์ชี้ไทยเสี่ยงหนักภัยภูมิอากาศ แนะเร่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะน้ำท่วม ภัยแล้ง และคลื่นความร้อน กำลังสร้างแรงกระทบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และความมั่นคงของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรกรรมและเมืองชายฝั่ง เช่น กรุงเทพฯ และภูเก็ต

เวิลด์แบงก์ชี้ว่า น้ำท่วมยังเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงและเกิดบ่อยที่สุดในไทย ขณะที่ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นและการกัดเซาะชายฝั่งคุกคามเขตเศรษฐกิจสำคัญ ส่วนภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นในภาคเหนือและอีสาน ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงและกระทบรายได้ของเกษตรกร

รายงานเวิลด์แบงก์ ยังประเมินว่า ไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 0.88% ของการปล่อยทั่วโลก โดยภาคพลังงานเป็นแหล่งใหญ่สุด รองลงมาคือภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ไทยตั้งเป้าหมายบรรลุ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (carbon neutrality) ภายในปี 2593 และ “การปล่อยสุทธิเป็นศูนย์” (Net Zero) ภายในปี 2608 ซึ่งต้องการการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างขนาดใหญ่

เวิลด์แบงก์ชี้ไทยเสี่ยงหนักภัยภูมิอากาศ แนะเร่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

เวิลด์แบงก์เสนอให้ไทยเร่งเดินหน้าแผนลดการปล่อยก๊าซและปรับตัวต่อภัยภูมิอากาศ โดยเน้น 3 มาตรการหลัก ได้แก่

1. ปรับโครงสร้างระบบพลังงานไปสู่พลังงานหมุนเวียนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

2. สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและเกษตรให้ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ

3. เสริมระบบจัดการน้ำและโครงสร้างพื้นฐานรับมือภัยพิบัติ

นอกจากนี้ รายงานเวิลด์แบงก์ยังเห็นว่า “เศรษฐกิจสีเขียว” จะเป็นโอกาสใหม่ของไทยในการสร้างการเติบโตระยะยาว เช่น การลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พลังงานแสงอาทิตย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพการส่งออกและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

เวิลด์แบงก์เน้นย้ำว่า ความสำเร็จของไทยในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะขึ้นอยู่กับการจัดลำดับนโยบายและการระดมเงินทุนอย่างเป็นระบบ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงการใช้กลไกตลาดคาร์บอน (carbon market) และภาษีคาร์บอน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจลดการปล่อยก๊าซ

รายงานสรุปว่า หากไทยสามารถเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างเป็นรูปธรรม จะไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากภัยภูมิอากาศเท่านั้น แต่ยังเป็น “โอกาสทอง” ในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืนและแข่งขันได้ในตลาดโลกสีเขียว