sustainable

PQS ดึง AI ผลิตแป้งมันสำปะหลังคาร์บอนต่ำ บุกตลาดพรีเมียม

PQS จับมือ Sojitz เดินหน้าโครงการ Low Carbon Starch ผลิตแป้งมันสำปะหลังคาร์บอนต่ำ สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาได้ หนุนความยั่งยืนภาคอุตสาหกรรมเกษตร พร้อมตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับ ESG และสิ่งแวดล้อม

นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด(มหาชน) หรือ PQS เปิดเผยว่า การนำเทคโนโลยี AI และองค์ความรู้ระดับสากลมาปรับใช้ในการผลิตแป้งมันสำปะหลัง จะไม่เพียงแต่ยกระดับการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังทำให้มันสำปะหลังของไทยก้าวสู่ตลาดพรีเมียมในระดับโลกได้

ล่าสุด PQS ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท โซจิทสึ เกษตร ดี เอ็กซ์ จำกัด (KDX) และบริษัทแม่ Sojitz Corporation ภายใต้โครงการ “Low Carbon Starch” โดยมุ่งผลิตแป้งมันสำปะหลังที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำและสามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาได้ (Traceable Sourcing)

สอดคล้องกับการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการพัฒนาในประเด็น ESG ที่ตลาดโลกกำลังให้ความสนใจ

ทั้งนี้ ความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท Sojitz ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการยกระดับกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลัง แต่คือการวางรากฐานให้อุตสาหกรรมเกษตรของไทยก้าวไปสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน

นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด(มหาชน)

“เราเชื่อมั่นว่าโครงการ ‘Low Carbon Starch’ จะสร้างแต้มต่อให้ PQS สามารถแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับประเด็น ESG ได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมทั้งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่เกษตรกร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของห่วงโซ่คุณค่าของเรา”

 

นายเรียวสุเกะ โฮริ ประธานของ KDX กล่าวเสริมว่า บริษัทจะใช้ความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการเกษตร (AgTech) และเครือข่ายตลาดทั่วโลกของ Sojitz เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โปร่งใสในแง่การตรวจสอบแหล่งที่มา เพื่อความต้องการของตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และทั่วโลก

อย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของโครงการคือ การพัฒนาระบบเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหารและจังหวัดสกลนคร โดยใช้ “KDX Connect” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันด้านการเกษตรบนโทรศัพท์มือถือ ที่พัฒนาโดย KDX มาเป็นเครื่องมือหลักในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแปลงเพาะปลูกอย่างละเอียด

PQS ดึง AI ผลิตแป้งมันสำปะหลังคาร์บอนต่ำ บุกตลาดพรีเมียม

ข้อมูลที่ได้มาจะถูกประมวลผลร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียมและทำการวิเคราะห์โดย AI ทำให้สามารถคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (CFP) ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังทุกล็อต สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังแปลงเพาะปลูกและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้

เฟสแรกจะเริ่มต้นกับเกษตรกรนำร่อง 20 ราย และตั้งเป้าขยายผลสู่เกษตรกร 200 รายภายในไตรมาสถัดไป